รีวิวหนัง Old โอลด์ ภาพยนตร์ระทึกขวัญลึกลับ 1 วันเท่ากับ 50 ปี เกาะประหลาด ที่จะทำให้คุณแก่ตายได้ภายใน1วัน

รีวิวหนัง Old โอลด์

รีวิวหนัง Old โอลด์ ภาพยนตร์ระทึกขวัญลึกลับจาก M. Night Shyamalan ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายภาพเรื่อง Sandcastle ของ Pierre – Oscar Lévy และ Frederik Peeters โดยใช้ความกลัวที่เรียบง่ายจากศัตรูตามธรรมชาติของมนุษย์ นั่นคือ เงื่อนไขของเวลา

ครอบครัวหนึ่งไปเที่ยวพักผ่อนที่รีสอร์ตหรูและพบชายหาดส่วนตัวอันเงียบสงบ แต่ความสวยงามก็เปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนกอย่างรวดเร็ว เมื่อดูเหมือนว่าหาดแห่งนี้ไม่อาจหนีออกไปได้และมันกำลังคร่าทุกชีวิตด้วยเวลาที่วิ่งอย่างผิดปกติ จนชั่วชีวิตย่นย่อเหลือเพียงหนึ่งวัน

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรเชิญรับชมได้ที่ช่องทาง  ดูหนังออนไลน์  

คำเตือน! อาจพบสปอยล์ได้จากบทความนี้

รีวิวหนัง Old โอลด์

รีวิวหนัง Old โอลด์ เรื่องย่อ

Old (2021) เรื่องย่อ เรื่องราวของกลุ่มคนที่ถูกหลอกมาทำการทดลองเร่งเวลาชีวิต บนชายหาดลึกลับที่เวลา 1 วัน เท่ากับ 50 ปี ภาพยนตร์เรื่องนี้แฝงปรัชญาง่าย ๆ

ของชีวิตในความสยอง เราจะเห็นได้ว่าตัวละครต่าง ๆ มีโรคประจำตัวที่ไม่ร้ายแรง จึงละเลยการดูแลสุขภาพ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว กระบวนการชราภาพกลับทำให้โรคร้ายที่พวกเขาเคยมองข้ามกลับมาทำร้ายพวกเขาเอง และยังมีประเด็นอื่น ๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขของเวลาให้ขบคิด

ตัวละครเด็กในเรื่อง พบว่าตัวเองเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นวัยรุ่นภายในไม่กี่ชั่วโมง จากนั้นก็มีเพศสัมพันธ์กันในเต็นท์

ขณะที่พวกผู้ใหญ่กำลังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่ได้เจอ สุดท้ายแล้ว เด็ก 6 ขวบในร่างวัยรุ่นก็ตั้งครรภ์และทารกน้อยก็ตายหลังจากที่คลอดออกมา

เหตุเพราะทารกต้องการดูแลตั้งแต่แรกเกิด แต่ด้วยเวลาที่เดินไปอย่างรวดเร็ว พ่อแม่ในวัย 6 ขวบ ไม่สามารถทำความเข้าใจกับความซับซ้อนในการมีครอบครัวและไม่มีเวลามากพอ

ที่จะช่วยลูกไว้ได้ เป็นอีกหนึ่งฉากที่น่าหดหู่ใจ แต่ก็มีนัยแอบแฝงของวัยรุ่นที่คิดจะมีลูกเมื่อตนยังไม่พร้อม ว่าการมีลูกต้องมีวุฒิภาวะ ซึ่งตัวละครวัย 6 ขวบ ยังไม่มี

รอบครัว 3 ครอบครัวที่ไปเดินทางชวงวันหยุด

ความน่ากลัวเพิ่มขึ้นทวีเมื่อตัวละครทุกคนระดมสมองหาวิธีออกไปจากเกาะ พวกเขาต้องเลือกระหว่าง ออกไปจากสถานที่ลึกลับนี้โดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรรออยู่เบื้องหน้า

หรือตายอยู่ในหาดนี้ด้วยกระบวนการชราภาพตามธรรมชาติและโรคร้ายของแต่ละคน เป็นอีกนัยที่ Shyamalan ซ่อนไว้ คือไม่ว่าชีวิตจะเลือกทางไหนทุกคนก็ต้องตายอยู่ดี

สองสามีภรรยาที่กำลังจะเลิกกัน เหตุเพราะฝ่ายหญิงมีชู้ แต่ในเวลาค่ำของวันนั้น ภรรยาที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออารมณ์ทางเพศแล้ว เธอไม่คิดจะเลิกกับสามีเธออีกต่อไป

เพราะรับรู้ถึงความรักที่แท้จริงมากกว่าความสุขอันฉาบฉวย สุดท้ายทั้งคู่เสียชีวิตด้วยโรคชราในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นจุดจบที่โรแมนติกขณะเดียวกันก็แสดงถึงความน่ากลัวของเวลาและความสัมพันธ์ที่ไม่สอดคล้องกัน

ในตอนจบมีเพียงตัวละครพี่น้อง Trent (รับบทโดย Emum Elliott) และ Maddox (รับบทโดย Embeth Davidtz) พวกเขาในวัย 50 ปี กล้าคิดกล้าตัดสินใจและหนีออกมาจากหาดลึกลับได้ เป็นการสื่อถึงเวลาในชีวิตที่ผู้ใหญ่ขโมยไปจากเด็ก

การที่พ่อแม่พวกเขาพามาที่นี่เขาไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจ และจะเห็นได้ว่าพวกเขาเริ่มมีแนวคิดเป็นของตัวเองเมื่ออายุ 50 ปีแล้ว หลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิต

ถ้าเปรียบกับชีวิตจริง คงเป็นการที่พ่อแม่เลี้ยงลูกให้เป็นไปตามแนวทางที่ตัวเองคิด โดยไม่สนใจว่าจริง ๆ แล้ว ลูกต้องการอะไร

การดำเนินเรื่อง

รีวิวหนังระทึกขวัญ ‘Old’ ดัดแปลงจากกราฟิกโนเวลสัญชาติฝรั่งเศสเรื่อง ‘Sandcastle’ (2013) ของ เฟรเดอริก พีเตอร์ส (Frederik Peeters) และ ปิแยร์ ออสการ์ เลวี (Pierre Oscar Lévy)

ว่าด้วยกลุ่มคนที่มาเจอปรากฏการณ์ธรรมชาติลึกลับเกินความเข้าใจเมื่อเวลาที่ชายหาดส่วนตัวแห่งหนึ่งได้เดินเร็วมากจนทำให้เด็กกลายเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่กลายเป็นคนชราและตายลงภายในวันเดียว

ชยามาลานอาจเป็นแฟนหนังสือและได้ดึงเอาหลายอย่างจากกราฟิกโนเวลนี้มาใช้ทั้งพลอต ตัวละครหลายตัวที่ต่างกันแค่ชื่อและภูมิหลัง

แต่ในภาพรวมก็อาจกล่าวได้ว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก ทั้งนี้จุดสำคัญที่ตัวหนังกับกราฟิกโนเวลนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงคือคำเฉลยที่ชัดเจน

ในขณะที่กราฟิกโนเวลนั้นปล่อยให้ผู้ชมคิดเองว่าเรื่องราวทั้งหมดมันคืออะไรกันแน่และจบลงอย่างทิ้งคนดูไว้เคว้งคว้างกลางความเป็นไปได้มากมายที่มองได้ว่าเป็นเสน่ห์โดยตั้งใจ

เมื่อตัวละครในเรื่องเริ่มอายุมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

ชยามาลานก็กลับเลือกที่จะทำให้หนังเสพง่ายด้วยการหยอดลีลาระหว่างทางให้น่าสนใจขึ้นด้วยทั้งปริศนาชายลึกลับที่แอบมองกลุ่มตัวละครตายอยู่บนหน้าผาไกลลิบ

อนึ่งจะสื่อว่าเรื่องทั้งหมดมีเบื้องหลังบางอย่างอยู่ และการขมวดความตึงเครียดทางอารมณ์ใส่กันอย่างรวดเร็วของตัวละครจนเรื่องดันไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง มีคนเกิดขึ้น แก่ตัวลง เจ็บป่วยจากโรคเรื้อรังที่ทวีความรุนแรงเพราะเวลาที่เร่งอาการออกมา

จนไปถึงการตายทั้งเพราะปรากฏการณ์ธรรมชาติ การหนีความกลัวของตัวละคร และการต่อสู้อันตึงเครียด มันก่อผสมดราม่าแบบหนังระทึกขวัญที่ลงตัวขึ้นอย่างมาก และน่าจะถูกจริตผู้ชมที่เป็นฐานส่วนใหญ่โดยง่าย

หาดสยอง เร่งอายุคน

ไปๆ มาๆ เราชอบส่วนของสาระที่พี่เขาใส่ลงมาค่ะ หลักๆ คือการเตือนให้เราตระหนักว่า เวลาในชีวิตของคนนั้นมันสั้นนัก เราไม่มีวันรู้หรอกค่ะ ว่าเราจะอยู่ไปถึงเมื่อไร หรือคนใกล้ตัวเราจะอยู่กับเราไปนานแค่ไหน ดังนั้นการถนอมเวลาทุกนาทีไว้ ใช้มันให้คุ้มค่าจึงเป็นอะไรที่เราควรระลึกถึงอยู่ตลอดค่ะ

หรือบางทีเราอาจทะเลาะเบาะแว้ง ขัดแย้งกับคนใกล้ตัว หากทำได้ก็ควรหาทางประนีประนอม หาทางปรับเข้าหากัน ยกเว้นถ้ามันไปกันไม่ไหวจริงๆ ก็ค่อยหาทางลง ต่างคนต่างไปเริ่มชีวิตใหม่ แล้วเริ่มใหม่ให้ดีกว่าเดิม หาทางปรับปรุงเปลี่ยนแก้จุดที่เป็นปัญหาเพื่อที่ชีวิตภายหน้าจะได้ไม่ซ้ำรอยเดิม

“จงใช้เวลาให้คุ้มค่า” คือสารสำคัญที่ได้จากหนังครับ ดูแล้วก็ย้อนมาเตือนตน ใช้สารสาระจากหนังมาเป็นสารตั้งต้นเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ใช้เป็นกุญแจไขชีวิต หรือใช้อัพเกรดชีวิตให้ดีขึ้น – แบบนี้ต่อให้เราไม่โอกับหนัง แต่ถ้ายังได้อะไรติดหัวกลับไป มันก็ยังดีน่ะนะคะ

เจ้าของรีสอร์ท

ผมถามตัวเองหลังดูหนังจบว่าผมจะเอามาดูซ้ำหรือไม่ในวันข้างหน้า คำตอบที่สวนขึ้นมาอย่างรวดเร็วก็คือ “คงเอามาดูอีก”ประมาณว่าถ้าว่างๆ ก็คงเอาหนังพี่มาโนชมาดูแบบเรียงกัน ส่วนหนึ่งเพราระผมชอบหนังแนว The Twilight Zone แบบนี้อยู่แล้ว อีกส่วนก็เพราะรสมือพี่มาโนช สำหรับผมมันก็ยังโอเคน่ะ แล้วก็อย่างที่บอกครับว่า ผมชอบสาระที่พี่เขาสอดแทรกลงมาในหนังทุกเรื่องของเขาด้วย

ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าสาระอาจไม่ได้แปลกใหม่อะไร เราอาจเจอมาแล้วจากหนังหลายเรื่อง จากหนังสือหลายเล่ม หรือจากคำคมหลายเพจ แต่มันก็ไม่เลวครับที่เราได้ยินมันซ้ำ เพราะบางจังหวะเวลาเราอาจลืมมันไป ก็คงดีหากมีอะไรๆ แวะมาเตือนสติเราถึงแง่คิดดีๆ ที่เราเคยรู้มาแล้ว แต่อาจลืมไปเพราะเวลานั้นเกิดมีอะไรมาบดบัง

ดูเรื่องนี้จบก็รอดูต่อเรื่องหน้าครับ ระยะหลังนี้พี่มาโนชแกก็ Play Safe พอดู นั่นคือทำหนังทุนไม่เยอะ ความเสี่ยงก็พลอยลดลงไป ส่วนใหญ่จะกำไรทั้งสิ้น อย่างเรื่องนี้ก็ลงไป $18 ล้าน ได้คืนมาราวๆ $90 ล้านจากทั่วโลก กำไรเหนาะๆ ครับ

เกิด แก่ เจ็บ ตาย ชั่วข้ามวัน

ในบางช่วงแบบรู้สึกคล้ายกับซีรี่ย์เรื่อง LOST (อสูรกายดงดิบ) ที่ดำเนินเรื่องไป ก็ค่อยๆ ออกทะเลไปไกล

จังหวะของหนังทำออกมาไม่ค่อยไม่สม่ำเสมอ โดยครึ่งแรกดำเนินไปในขณะที่แนะนำตัวละครต่างๆ และประเด็นที่เกี่ยวข้อง เราจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขา

แต่ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไม่สามารถนำมาพัฒนาตัวละครได้อย่างเต็มที่ ปล่อยให้เรื่องราวมากมายรู้สึกว่าแค่ผิวเผิน บทสนทนาในเรื่องมักจะรู้สึกว่าถูกบังคับและดูไม่เป็นธรรมชาติ

ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความอินกับตัวละครของผู้ชม ในการเชื่อมต่อกับตัวละครให้ลงเข้าไปในระดับลึกถึงความนึกคิดของตัวละคร

รีวิวหนัง Old โอลด์

เมื่อ old 2021ตัวละคร ในเรื่องเริ่มอายุมากขึ้นอย่างรวดเร็ว หนังก็พยายามเจาะลึกถึงผลกระทบทางจิตใจ และอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขา แต่ทำออกมาไม่ค่อยดี

เหมือนติดหล่มที่ต้องสร้างเหตุการณ์ที่รู้สึกอิมแพคกับเนื้อเรื่อง ทำให้การพัฒนาตัวละครนั้นดูเร่งรีบและตื้นเขิน ช่วงเวลาที่ควรสะท้อนอารมณ์ มักจะถูกมองว่ามันดูตั้งใจไปหน่อย ขาดความลึกซึ้งในการกระตุ้นเพื่อการตอบสนองจากผู้ชม

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนจบที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน ซึ่งกลายเป็นเนื้อหาหลักของภาพยนตร์ของเขา เต็มไปด้วยคำถามและคำตอบ

เรารู้ว่าชายหาดคือการทดลองลับของบริษัทยา แม้ว่าการเปิดเผยจะเพิ่มองค์ประกอบของการสมรู้ร่วมคิดให้กับเรื่องราว แต่ก็รู้สึกว่าดูเร่งรีบให้การแก้ปัญหา ไม่รู้สึกว่าเจ้าของรีสอร์ทได้รับผลกรรมแบบที่น่าพอใจ

รีวิวหนัง Old โอลด์ บทสรุป

ในด้านภาพ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสวยงามด้วยทิวทัศน์ริมชายหาดที่สวยงามและมุมมองของภาพก็ออกมาได้น่าประทับใจ อย่างไรก็ตาม

การถ่ายทำภาพยนตร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถชดเชยข้อบกพร่องในการเล่าเรื่องได้ การใช้งานเสียงที่น่าขนลุกทำให้ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในบางครั้ง แต่องค์ประกอบเหล่านี้ไม่สามารถกอบกู้เรื่องราวให้กลับมาดีขึ้นได้

ในแง่ของการแสดง นักแสดงพยายามเต็มที่กับเนื้อหาที่ได้รับ Gael García Bernal, Vicky Krieps และ Alex Wolff นำเสนอการแสดงที่น่ายกย่อง

แต่พรสวรรค์ของพวกเขากลับสูญเสียไปกับตัวละครที่เขียนบางๆ เลยทำให้การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องยาก เนื่องจากเบื้องลึกของพวกเขายังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ และการกระทำหลายๆ อย่างของพวกเขามักจะอธิบายไม่ได้

ชายหาดอันเงียบสงบ

OLD เริ่มต้นด้วยความน่าสนใจและศักยภาพในการเล่นเรื่องเกี่ยวกับเวลา และความพิศวงอันน่าติดตาม น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแนวคิดเหล่านี้ได้

การดำเนินเรื่องที่ดูน่าติดตามหาสาเหตุอยู่แล้ว แต่กลับพบว่าตอนจบที่คิดว่าจะว้าวนั้น เมื่อถูกเฉลยกลับรู้สึกเฉยมาก แต่ผลกรรมของคนเหล่านั้น

เราไม่รู้สึกถูกแก้แค้นแบบสาสมสักเท่าไหร่นัก แม้ดูแล้วจะไม่ถูกใจเมื่อเทียบกับงานมาสเตอร์พีซของเค้าแล้ว กลับกันก็ยังสามารถทำเงินได้ $90 ล้านจากทุนสร้าง $18 ล้านเหรียญ

ความรู้สึกหลังรับชม

หนังแนวระทึกขวัญหักมุม เรื่องนี้ก็เป็นหนังที่มีลายเซ็นของเขาอย่างชัดเจน ตัวหนังให้อารมณ์นั่งคิดว่าถ้าคนเราติดอยู่ในเกาะที่ทำให้วงจรชีวิตของมนุษย์ไปเร็วขึ้นจริงๆ

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าคุณต้องรู้ตัวว่าจะแก่ใน 8 ชม. จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีโรคประจำตัวแล้วโรคพัฒนาการเร็วขนาดนั้นจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเด็กที่ต้องข้ามสู่วัยรุ่นในไม่กี่ชั่วโมงจะเกิดอะไรขึ้น เลยออกมาเป็นหนังที่ตัวเนื้อเรื่องหลักเองไม่ค่อยมีอะไร

เน้นเรื่องราวที่เกิดริมทางมากกว่า พร้อมด้วยการจบเรื่องแบบเป็นเอกลักษณ์ (รึเปล่า?) ของ Shyamalan คือการรีบเร่งจบแบบมันต้องจบแล้วนะ จบเลยละกัน

รีวิวหนัง Old โอลด์

ในตอนจบมีเพียงตัวละครพี่น้อง Trent (รับบทโดย Emum Elliott) และ Maddox (รับบทโดย Embeth Davidtz) พวกเขาในวัย 50 ปี

กล้าคิดกล้าตัดสินใจและหนีออกมาจากหาดลึกลับได้ เป็นการสื่อถึงเวลาในชีวิตที่ผู้ใหญ่ขโมยไปจากเด็ก การที่พ่อแม่พวกเขาพามาที่นี่เขาไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจ

และจะเห็นได้ว่าพวกเขาเริ่มมีแนวคิดเป็นของตัวเองเมื่ออายุ 50 ปีแล้ว หลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิต ถ้าเปรียบกับชีวิตจริง คงเป็นการที่พ่อแม่เลี้ยงลูกให้เป็นไปตามแนวทางที่ตัวเองคิด โดยไม่สนใจว่าจริง ๆ แล้ว ลูกต้องการอะไร

สุดท้ายแล้วเราขอฝากรีวิวหนัง It Comes at Night (2017) มันมาตอนกลางคืน หนังสยองขวัญที่จะทำให้คุณขนหัวลุกทั้งวันแน่นอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *