รีวิวหนัง Ant-Man and the Wasp : Quantumania แอนท์-แมน ตะลุยมิติควอนตัม

ภาพจากหนัง ‘Ant-Man and The Wasp: Quantumania’

สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกเช่นเคย มาในวันนี้ผู้เขียนจะมาสปอย หนังใหม่แนะนำ ภาพยนตร์เรื่องใหม่จากจักรวาลมาร์เวลที่ครั้งนี้จะเป็นเฟสใหม่เป็นเฟสที่ 5 แล้ว กับภาพยนตร์เรื่อง Marvel Studios’ Ant-Man and The Wasp : Quantumania และเป็นภาคที่สามของเรื่องราวมนุษย์มด

ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์หลังจบศึก Endgame สก็อตต์ แลง และครอบครัวของเขา ต้องไปท่องโลกในมิติควอนตั้มได้พบสิ่งมีชีวิตที่แปลกใหม่ในแบบที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน และพวกเขากำลังจะพบบางสิ่งที่พร้อมจะทำลายทุกจักรวาล  เชิญติดตามหนังดังช่องทางการรับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์  

มนุษย์มดตะลุยมิติควอนตัม

Kathryn Newton และ Paul Rudd ในหนัง

รีวิวหนัง Ant-Man and the Wasp : Quantumani เรื่องย่อ

Ant-Man and The Wasp เรื่องย่อ  เป็นภาพยนตร์เปิดเฟส 5 และเป็นภาคที่สามของเรื่องราวมนุษย์มด ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์หลังจบศึก Endgame สก็อตต์ แลง

และครอบครัวของเขา ต้องไปท่องโลกในมิติควอนตั้มได้พบสิ่งมีชีวิตที่แปลกใหม่ในแบบที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน และพวกเขากำลังจะพบบางสิ่งที่พร้อมจะทำลายทุกจักรวาล

ความรู้สึกหลังดูจบ ถ้าจะให้เทียบกับสองเรื่องก่อนหน้านั้น ก็ถือว่าโอเคกว่าพอสมควรเริ่มด้วยงานสร้างที่ดูดีกว่าจากเรื่องก่อนที่ดูไม่ลอยจนเสียอถรรสในการดูหนังจนเกินไป จนมีฉากที่ทำเอาร้องว้าวไปหลายฉากเลย ร่วมด้วยการเปิดเรื่องปูทางไปสู่เฟส 5 ได้น่าสนใจพอสมควร

รีวิว Ant-Man and the Wasp

ส่วนในการเดินเรื่องจะแบ่งไปสองพาร์ทคือพาร์ทสก็อตต์กับแคสชี่ลูกสาวของสกอตต์ กับ พาร์ทครอบครัวตระกูลพิม แวน ไดน์

พาร์ทของสก็อตต์กับลูกสาวจะมาโทนตลกเพื้ยนๆหลุดโลกและจะมีความน่ารักๆชวนอบอุ่นของสองพ่อลูก พอมาพาร์ทครอบครัวพิม

จะมาแนวจริงจังๆพร้อมกับไขปมของแม่เจเน็ตไปด้วย พอให้เทียบกันกลับชอบพาร์ทสก็อตต์มากๆ เพราะดูท่าจะตรงกับคอนเซปโลกของมิติควอนตั้มมากที่สุด ทั้งมีความตลกแบบบ้าๆบอๆแต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีความน่ารักน่าเอ็นดูไปด้วย

การดำเนินเรื่อง

ตัวหนัง Ant-Man ภาคนี้ได้เน้นเรื่องที่ใหญ่กว่าตัวละครมากขึ้นเข้าสู่อะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในการเล่น

มิติควอนตัมแต่ทั้งนี้มันกลับไม่ได้ให้เรารู้สึกยิ่งใหญ่ตามหนังไปเลยแม้แต่น้อยทั้งการเล่าเรื่อง การจูงเราไปมีส่วนร่วมต่างๆ แม้ว่าเราจะได้ ผกก คนเดิม

แต่เหมือนไม่ใช่แนวทางที่เรารู้จักกันเลยแม้แต่น้อยเนื้อเรื่องเล่าง่ายๆ เดาทางง่ายและเรียบง่ายไปหมดซึ่งถ้าเป็นแฟน Marvel ก็น่าจะรู้เลยว่ามันจะไปยังไงต่อ เล่ายังไง

ตัวละครนั้นจะทำอะไรยังไงในแง่ที่ผมไม่ได้ดูตัวอย่างของ Ant-man มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียวก็ยังไม่มีความน่าตื่นเต้นอะไรเท่าไรครับ

แต่ถ้ามองในแง่ดีของเนื้อเรื่อง เนื้อหา คือเราเข้าใจตัวละครที่จะเป็นตัวร้ายของ Phase 5 ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น แต่กลับเข้าถึงตัวละคร Ant-man

ได้ไม่ดีเหมือนเดิมทำให้มันกลายเป็นปูตัวละครตัวร้ายมากกว่า แม้ว่าหนังจะพยายามเสริมความรักครอบครัว พ่อลูกเข้ามาแต่กลับไม่ได้ลึกซึ้งแบบที่ควรจะเป็นซึ่งถ้าถามว่าดูเพลินง่ายสบายไหม เรื่องนี้ทำได้ดีในแง่นี้

รีวิว Ant-Man and the Wasp

แต่สิ่งที่แบกที่สุดของหนังคือความน่ารักของ Kathryn Newton หรือ แคสซี่ ลูกสาวของ Scott ในเรื่องนั้นแหละ หลายคนน่าจะเห็นตรงกัน

แต่ถ้ามองในแง่ของความเก่งของนักแสดง ขอยกให้ตัวร้ายอย่าง Kang ที่รับบทโดย Jonathan Majors ที่ขอยกให้เป็นการแสดงที่ดี แถมน่ากลัว และ น่าเกรงขามเท่าที่บทจะส่งให้ได้แล้ว

รวมถึงเราจะเห็นเค้าใน LOKI ก่อนหน้าแล้วก็ตามแต่ครั้งนี้ แสดงเป็นตัวละครอีกแนวนึงแบบชัดเจนเพราะตัวละครคนละตัว แต่นักแสดงคนเดียวกันเราเห็นเลยว่าแสดงได้แตกต่างและดีมากจริงๆและสามารถแบกเรื่องนี้ได้โดดเด่นเหนือ บท

ความเรียบง่ายของเนื้อเรื่องได้ดี โดดเด่นที่สุดในหนังเรื่องนี้ และเป็นจุดที่ชอบมากๆในเรื่องนี้ครับเราจะลุ้นเลยว่าในอนาคตมันจะเป็นยังไงได้อีกแนวทางไหนได้ดีนั้นเองสำสหรับตัวร้ายใหญ่สุดของ Phase 5 ครั้งนี้

พล็อตเรื่อง

งานภาพ งานเสียง ก่อนเข้าโรง IMAX 3D เราคาดหวังว่าการที่หนังได้เล่น มิติควอนตัม ที่มีอะไรให้ว้าวเยอะแยะมาก งานภาพสามารถเล่นอะไรได้เยอะมากแต่เมื่อดูจบกลับผิดหวังนิดหน่อยที่เราดูในโรง IMAX

ที่หนังไม่สามารถถ่ายทอดงานภาพสวยๆในสเกลขยายส่วนได้ดีให้สมกับราคาค่าตั๋วที่พุ่งขึ้นทุกวันของทาง MAJOR แบบนี้ ซึ่ง CG เนียนไหมอันนี้ต้องบอกตรงๆว่าเนียบ

สวยเลยแหละ แต่ความมีมิติของ 3D หรือ ฉากที่จะเล่นกับอะไรพวกนี้มันน้อยกว่าที่คิดครับทำให้การขยายฉากมันไม่เสริมอารมณ์การดูเท่าไรเลย
Ant-Man 2 Pantip

ส่วนงานเสียงเองหลายๆฉากเสียงทำได้ดีมากเสริมอารมณ์ได้ดีกับจังหวะหนังนั้นๆ แต่ไม่ได้มีเพลงเด่นๆ หรือ ซาวด์ติดหูสำหรับเรื่องนี้ครับ

โจนาธาน เมเยอร์ส

ถ้าถามว่าเรื่องนี้สมกับต้องดู IMAX ไหมต้องบอกตรงๆว่าไม่เหมาะครับ ซึ่งถ้าใครอ่านมาแล้วบอกว่า อคติไปไหม ต้องบอกกันตรงๆว่าอยากให้ลองดูก่อนครับและมาแสดงความคิดเห็นกันได้นะว่าชอบไม่ชอบยังไง แต่ด้วยความที่เราอยากให้หนัง MARVEL

กลับสู่คุณภาพแบบยุคแรกๆมันเริ่มยากไปทุกที ถ้าหนังไม่มีจุดที่กลัวคนจะสปอยล์ หรือ ตัวละครที่ต้องเชื่อมไปเรื่องนู้นเรื่องนี้ มันจะยังน่าดูอยู่ไหมอันนี้น่าจะเป็นคำถามหลักๆเลยในหนังยุคหลังๆ แต่ถ้ามองแค่หนังเรื่องนึง

ที่ทำให้เราหายคิดถึง Ant-man ได้เรื่องนี้ตอบโจทย์ได้ทันที ดูเพลินสนุก ไม่คิดมาก แอคชั่นถึงตัวสะใจมากกว่า Black panther , Thor 4 ก่อนหน้านี้แน่นอนครับ และ

มีหลายๆฉากค่อนข้างดีเลยแหละ แต่ความลึกของตัวละครหลักแบบ Ant-man กลับไม่เด่นเท่ากับตัวร้ายที่จะพยายามปูไปเรื่องอื่นๆเท่าไรทำให้มันเป็นจุดที่น่าเสียดายว่า เอกลักษณ์ความเป็น Ant-man ได้หายไปชัดเจน

ตัวละครนำ

ในแง่ตัวละครถือว่ากระจายกันได้อย่างลงตัวและมีเสน่ห์มากขึ้นจาก 2 ภาคแรกนะครับ โดยเฉพาะการแบ่งตัวละครออกเป็น 2 เส้นเรื่อง รีวิว Ant-Man 2023

แต่สิ่งที่ต้องพูดถึงมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นวายร้ายอย่าง แคงผู้พิชิต (Kang the Conqueror) ที่รับบทโดย โจนาธาน เมเจอร์ส (Jonathan Majors)

ที่อุตส่าห์บิลต์กันยกใหญ่ว่านี่จะเป็นตัวร้ายประจำ Saga ที่โหดยิ่งกว่าธานอส ถ้าเอาในแง่การแสดง ก็ต้องใช้คำว่า “มาร์เวลโชคดีที่มี โจนาธาน เมเจอร์ส” จริง ๆ

เพราะเขาสามารถถ่ายทอดความเป็นแคงได้มีเสน่ห์ น่าเกรงขาม มีความเป็นเจ้าพ่อมาดเข้ม เจ้าเล่ห์ แต่เวลาโหดก็ใส่แบบเดือด ๆ เหมือนกัน และฉากต่อสู้นี่ก็เรียกได้ว่า พี่แคงแกเป็นมวย เพราะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูหนัง ‘Creed’ อยู่เหมือนกันนะ (555)

Jonathan Majors ในบท Kang จากหนัง

แต่จะว่าก็ว่าเถอะ สำหรับผู้เขียนมองว่า ความน่ากลัวของแคงก็ถือว่ายังไม่เกินความคาดหมายนะครับ คือถ้าใครพอติดตามธีมมัลติเวิร์ส หรือดูซีรีส์ ‘Loki’ (2021) มาแล้ว

ก็พอจะคาดเดาได้ว่าแคงนั้นอันตรายในระดับมัลติเวิร์สได้อย่างไร และก็ถือว่าเป็นตัวร้ายที่มีเหตุผลบางอย่างในแบบฉบับของ Marvel นั่นแหละ

แต่วายร้ายอีกตัวที่ผู้เขียนอยากพูดถึงก็คือ โมด็อก (Corey Stoll) ซึ่งก็คือ แดเรน ครอส หรือ เยลโลว์แจ็กเก็ต (Yellowjacket) วายร้ายที่โดนบีบอัดไฟล์ .zip ไปแล้วในภาคแรก (5555+) ซึ่งเห็นโหด ๆ เพี้ยน ๆ แบบนั้น แต่ขโมยซีนเรียกฮาเรียกยิ้มได้หลายขยักอยู่นะ

แน่นอนว่าตัวหนังเองก็ยังมีจุดสังเกตอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็วตลอดเรื่อง ในอีกด้านหนึ่งมันก็ทำให้ตัวหนังมีความรวบรัดตัดตอนในบางจุดคล้าย ๆ ภาคแรก

โดยเฉพาะบทสรุปเรื่องที่จริง ๆ ทำได้ค่อนข้างดีเลยนะครับ แต่ว่ามันก็แอบมีจังหวะรีบทำเวลาจบอยู่ดี และนั่นก็ส่งผลกระทบให้การย้ำดราม่าประเด็นครอบครัว

(ที่มีตั้ง 2 ครอบครัวเลยนะคราวนี้) ยังขยี้ต่อได้ไม่ลึกนัก จนแอบขาดเสน่ห์ความเป็นหนังครอบครัวแบบ 2 ภาคแรกไปพอสมควร รวมทั้งการปูเรื่องที่ไปที่มาของแคง

และความลับเกี่ยวกับมิติควอนตัมของเจเน็ต ในฐานะที่เป็นคนอยู่ในมิติควอนตัมมานาน 30 ปี ค่อนข้างอ่อนแรง เบาบาง

และมีผลต่อเนื้อเรื่องน้อยไปสักหน่อย รวมทั้งตัวละครใหญ่ ๆ ที่ถูกวางไว้เป็นปริศนา แต่เอาเข้าจริงก็มาไวไปไวมาก ใช้ไม่คุ้มค่ากับบารมีดาราเสียอย่างนั้นแหละ

รีวิวหนัง Ant-Man and the Wasp : Quantumania สรุป

ส่วนในการเดินเรื่องจะแบ่งไปสองพาร์ทคือพาร์ทสก็อตต์กับแคสชี่ลูกสาวของสกอตต์ กับ พาร์ทครอบครัวตระกูลพิม แวน ไดน์ พาร์ทของสก็อตต์กับลูกสาวจะมาโทนตลกเพื้ยนๆหลุดโลกและจะมีความน่ารักๆชวนอบอุ่นของสองพ่อลูก

พอมาพาร์ทครอบครัวพิม จะมาแนวจริงจังๆพร้อมกับไขปมของแม่เจเน็ตไปด้วย พอให้เทียบกันกลับชอบพาร์ทสก็อตต์มากๆ เพราะดูท่าจะตรงกับคอนเซปโลกของมิติควอนตั้มมากที่สุด ทั้งมีความตลกแบบบ้าๆบอๆแต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีความน่ารักน่าเอ็นดูไปด้วย

ดร. แฮงค์ พิม (Michael Douglas

พอไปยังพาร์ทครอบครัวพิมถึงแม้จะปูปมของแม่เจเน็ตได้น่าสนใจ แต่พอเล่าออกมากลับมีความเชื่องช้าชวนทำให้เบื่อชวนหาวได้ มันไม่ทำให้เราจูนติดและอินไปกับเนื้อเรื่องได้ พอยิ่งไม่มีตัวละครอย่างสก็อตต์ไปยิงมุขใส่กันไปมันยิ่งทำให้สีสันเริ่มจางหายไปเรื่อยๆ

ส่วนตัวร้ายของเรื่องอย่าง แคง ก่อนดูก้คาดหวังว่าบอสใหญ่ของเฟสนี้จะเปิดด้วยเป็นตัวร้ายอีกตัวที่เก่งและน่าเกร่งขามแน่ๆ

แต่พอดูจริงๆเหมือนเขายังกั๊กไว้ไปยังเรื่องต่อไปมันทำให้ตัวละครแคงมันมีแค่ความหล่อล้ำบิ๊กแต่ขาดความน่าเกร่งข่ามจะโหดก็โหดไม่สุด เข้าใจว่าอยากเก็บไว้แต่มันจะทำให้ตัวละครนี้ดูขาดความน่าเชื่อถือไปนะ ฮ่าๆ

ความรู้สึกหลังรับชม

อีกสิ่งหนึ่งที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ของหนังคือการสร้างโลกมิติควอนตัมที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตประหลาดๆ เยอะแยะมากมาย น่าจะต้องระดมไอเดียอย่างหนักเลย

แล้วหลายๆ ตัวมีเอกลักษณ์น่าจดจำไม่ถูกออกแบบส่งๆ ทำให้ช่วงท้ายที่เป็นซีเควนซ์ใหญ่นั้นมันอลังการและอุตลุตสุดๆ อย่างกับดูสตาร์วอร์สก็ไม่ปาน แถม แฮงค์ พิมพ์

ในช่วงท้ายก็เท่จัดๆ แย่งซีนไปเฉยเลย อ้อแต่ก็เตือนไว้นิดหนึ่งว่าเรื่องนี้แสงสีมันละลานตามากๆ บางคนอาจมึนได้นะครับ ยังไงก็ระวังๆ กันสักหน่อย

รีวิว Ant-Man and the Wasp

สรุป – Marvel Studios’ Ant-Man and the Wasp: Quantumania ถือว่าเป็นเรื่องราวเปิดเฟสได้ดีในแง่งานสร้างซีจีที่สวยตื่นตาขึ้น

กับการปูทางไปสู่เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ได้น่าสนใจ แต่ยังมีบางส่วนที่ยังรู้สึกว่าเนื้อเรื่องยังไปไม่สุดมีความเชื่องช้าชวนหาวและตัวร้ายก็ยังไม่น่าเชื่อถือมากพอที่จะทำให้เราอินไปกับมันได้ แต่รวมๆก็ถือว่าโอเคยังพอรับได้กว่าสองเรื่องที่แล้ว ก็ถือว่าเฟส 5 ยังพอน่าสนใจอยู่บ้าง

สุดท้ายเราขอแนะนำ รีวิวหนัง The Whale หนังที่พร้อมละลายหัวใจคุณ ด้วยความ เหงา เท่า วาฬ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *