รีวิว Insidious The Red Door หนังภาคต่อสยองขวัญ เมื่อปีศาจกลับมาเยือน ครอบครัว แลมเบิร์ตอีกครั้ง พากษ์ไทย

รีวิว Insidious The Red Door หนังภาคต่อสยองขวัญ เมื่อปีศาจกลับมาเยือน ครอบครัว แลมเบิร์ตอีกครั้ง พากษ์ไทย กับเรา เว็บดูหนังเถื่อน แฟรนไชส์สยองขวัญ Insidiousได้กลับมาพร้อมกับภาคที่ห้า หลังจากผ่านไปหนึ่งทศวรรษนับตั้งแต่การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย กับ ครอบครัวแลมเบิร์ต รีวิวหนังดี ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอบทสรุปที่ชัดเจนสำหรับเรื่องราวของพวกเขา อย่างน้อยก็ในตอนนี้ ประตูสีแดงมอบตอนจบที่น่าพึงพอใจให้กับครอบครัวแลมเบิร์ต มันทำให้พ่อและลูกชายกลับมาพบกันอีกครั้ง ปล่อยให้พวกเขาเผชิญหน้ากับอดีตและพบกับจุดจบ ติดตามรับชม การสปอยหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่อย่าพลาดรับชมเรื่องย่อ บทสรุป และนักแสดง จะสนุกแค่ไหนน่ากลัวมั้ย และยังมีอีกเรื่องที่เรา doonungde อยากจะแนะนำให้อ่านรีวิวและตามไปดูกันก็คือ รีวิว koi to Uso เรื่องราวรักสามเศร้า

Insidious The Red Door นำความสยองขวัญของครอบครัว แลมเบิร์ต มาเติมเต็มด้วยตอนจบที่ให้ความตื่นเต้น เช่นเดียว กับการปิดฉาก กำกับการแสดงโดย แพทริก วิลสัน สิบปีหลังจากจอช แลมเบิร์ต ผู้เฒ่าของเขาเข้าไปใน The More เพื่อช่วยเหลือ ดาลตัน (ไท ซิมป์กินส์) ลูกชายของเขา ภาวะแทรกซ้อนจากการเดินทางของพวกเขา 

รวมถึงช่วงเวลาแห่งการครอบครองโดยปีศาจของ จอชจาก Insidious Chapter 2 ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เรไนภรรยาของเขา (โรส เบิร์น) เพื่อขอแยกทาง และ จำเป็นต้องให้ความทรงจำของเขาและดาลตัน ถูกควบคุมโดยคาร์ล (สตีฟ โคลเตอร์) ความทรงจำของดาลตัน กลับคืนมาเมื่อเขาวาด Red Door ในชั้นเรียนศิลปะของวิทยาลัย ในขณะเดียวกัน จอช ก็สำรวจประวัติครอบครัวของเขาเกี่ยวกับแสงของดวงดาว

ดอลตัน เดินทางสำรวจใน The More ซึ่งทำให้เขาเข้าใกล้วิญญาณทรมานที่ต้องการจะอาศัยอยู่ในร่างของเขามากขึ้น ในขณะที่จอชตระหนักว่า เรไน อาจเป็นผู้กุมคำตอบของฝันร้ายที่ตื่นขึ้นของเขาเอง เชื่อมั่นว่าเขาสามารถปิดประตูสีแดง เพื่อให้ ดาลตัน มุ่งหน้าสู่ The More เป็นครั้งสุดท้าย 

แต่เมื่อเขาถูกคุมขังโดยปีศาจ ลิปสติก-เฟซ จอช จึงต้องกลับมาโดยใช้ความทรงจำของการมาเยือนครั้งก่อนเพื่อช่วยให้ลูกชายของเขาหลบหนี เมื่อกลับมาสู่โลกแห่งความจริง ดาลตันวาดภาพ Red Door ทับภาพของเขา ในขณะที่วิญญาณของพ่อของ จอช (เดวิด คอล) นำทางเขาออกจาก The More และ ช่วยให้ครอบครัวกลับมารวมกันอีกครั้ง

รีวิวหนัง “Insidious: The Red Door วิญญาณตามติด ประตูผีผ่าน เกือบหนึ่งทศวรรษหลังจากประสบการณ์ของพวกเขาใน The Next จอช แลมเบิร์ต แยกทางจากครอบครัว หลังจากถูกปีศาจเข้าสิง และ ไล่ตามพวกเขาด้วยค้อน เขาและเรไนหย่าร้างกัน ส่วนดาลตันไม่พอใจเขาขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัย ในไม่ช้าทั้งจอช และ ดาลตัน ก็กลับมาที่ The More เมื่อความทรงจำของพวกเขาถูกกระตุ้น

จอชได้รู้ว่าประสบการณ์นั้นย้อนกลับไปหา เบ็น เบอร์ตัน พ่อของเขาที่หายสาบสูญไปนาน ซึ่งเป็นผู้ป่วยทางจิตที่ฆ่าตัวตายเพราะเขาเชื่อว่ามันจะหยุดไม่ให้ครอบครัวของเขาเข้าสู่ The More หลังจากหลอกหลอนมาหลายครั้ง จอช และ ดาลตัน ต้องกลับเข้าไปใน The Next อีกครั้ง 

และ เผชิญหน้ากับบาดแผลทางใจก่อนที่ปีศาจจะจับได้ ขณะที่จอชพยายามอยู่ข้างหลัง ดาลตันก็หาทางช่วยเขา และ กันลิปสติก-เฟซ เดมอนออกไป จอช ยังเห็นวิญญาณของ เบ็น และ ดูเหมือนจะให้อภัยเขา จอช และ เรไนดูเหมือนจะอยู่ในขั้นตอนการคืนดีกันและเขาก็ได้ปรับความเข้าใจความสัมพันธ์ของเขากับ ดาลตัน จบเรื่องย่อของ Insidious 5 

แพทริก วิลสันรับบทเป็น จอช แลมเบิร์ต ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในดาราของ Insidious The Red Door เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้กุมบังเหียนของแฟรนไชส์นี้ในฐานะผู้กำกับ นับเป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของเขา นักแสดงรับบทเป็นจอช แลมเบิร์ต ผู้ซึ่งเอาชนะความชอกช้ำในวัยเด็กใน Insidious: Chapter 2 แต่จะต้องกลับไปที่ The Next  อีกครั้งเพื่อปกป้องครอบครัวของเขา รีวิวหนัง Insidious: The Red Door วิญญาณตามติด

โรส เบิร์น รับบทเป็น เรไน แลมเบิร์ต เป็นแม่ที่ตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องครอบครัวของเธอ เบิร์น เริ่มต้นงานทีวีด้วยบทบาทที่ก้าวล้ำในละครโทรทัศน์เรื่อง Echo Point ของออสเตรเลีย ซึ่งเปิดตัวเธอสู่สายตาชาวโลก เนื่องจากเธอยังแสดงใน 28 Weeks Later ซึ่งเป็น ภาคต่อโดยตรงของหนังซอมบี้ของ Danny Boyle 28 Days Later

ไท ซิมป์กินส์ รับบทเป็น ดาลตัน แลมเบิร์ต เป็นตัวกระตุ้นสำหรับเหตุการณ์ใน Insidious บทที่ 1 และ 2 ซึ่งตกอยู่ในอาการโคม่าอย่างอธิบายไม่ได้หลังจากเผชิญหน้ากับสิ่งอันตรายจาก The More 10 ปีต่อมา ดาลตันใช้ชีวิตธรรมดาๆ มุ่งสู่วิทยาลัยในฝันและอนาคตที่สดใส จนกระทั่งปีศาจในอดีตของครอบครัวกลับมาแข็งแกร่งกว่าที่เคย

ลิน เชย์ รับบทเป็น เอลิซ เรนเนียร์ ถึงแม้ เอลิซ  จะตกเป็นเหยื่อของ จอช ที่ถูกครอบงำ และ เสียชีวิตในตอนจบของ ภาพยนตร์เรื่องแรก เธอเป็นตัวละครเดียวที่ปรากฏใน ภาพยนตร์ Insidious ทุกเรื่อง ซึ่งส่งผลให้กลายเป็นหน้าตาของแฟรนไชส์นี้ ในขณะที่เธอเป็นเพียงตัวละครสมทบในสองบทแรก เอลีส รับหน้าที่เป็นตัวเอกใน Insidious: Chapter 3 และ Insidious: The Last Key ซึ่งเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในภาพยนตร์ภาคแรก

The Red Door ได้รับการแนะนำใน ภาพยนตร์ Insidious เรื่องแรกผ่านภาพวาดของ ดาลตัน ในวัยเยาว์ ซึ่งเป็นวิธีการทำความเข้าใจสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นฝันร้าย แต่อันที่จริงแล้วเป็นผลมาจากการเดินทางของวิญญาณของเขา ประตูสีแดงเป็นสิ่งกีดขวางระหว่าง เฟเธอร์ กับสถานที่ที่ไกลออกไปนอกโลกของสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีจิตวิญญาณที่ทรมานที่สุดอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นทางเข้าสู่ที่ซ่อนของปีศาจลิปสติกที่ ทรงพลังที่ดาลตันเรียกว่า ” ชายผู้มีไฟในหน้า ” 

ใน Insidious ดาลตันติดอยู่ที่นั่นและรอดมาได้ก็ต้องขอบคุณพ่อของเขาที่สามารถแงะลูกชายของเขาให้ออกห่างจากปีศาจหน้าแดง แต่ไม่สามารถปิดประตูที่อยู่ข้างหลังเขาได้ ทำให้ปีศาจเข้าถึงโลกของพวกเขาได้อย่างต่อเนื่อง The Red Door ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องใหม่อีกครั้งผ่านภาพวาดของดาลตันที่ตอนนี้ยังเป็นวัยรุ่น หลังจากที่ครูสอนศิลปะของเขา ( ไฮแอม แอ็บบาส) กระตุ้นให้เขาค้นหาแรงบันดาลใจในจิตใต้สำนึกของเขา

ประตูกลายเป็นกุญแจไขความทรงจำที่ดาลตัน และ พ่อของเขาสาบานว่าจะลืมเมื่อหลายปีก่อน แต่หากไม่มีบริบทที่เหมาะสม ความทรงจำมีแต่จะทำให้ดาลตันสับสนมากขึ้น เขาพบว่าตัวเองกำลังวาดประตูสีแดงอีกครั้ง แต่คราวนี้มีชายคนหนึ่งถือค้อนยืนอยู่ตรงหน้าประตูนั้น ในตอนแรก ใบหน้าของชายปริศนานั้นยากที่จะแยกแยะออก แต่ในไม่ช้า ดาลตันก็ตระหนักได้ว่าเขาวาดภาพพ่อของเขา ซึ่งใบหน้าของเขาดูผิดเพี้ยนไปเล็กน้อยในภาพ ราวกับมีใบหน้าอื่นที่น่ากลัวกว่าฉายอยู่ด้านบน

กล่าวโดยย่อ ตอนจบของ Insidious The Red Door น่าจะหมายความว่าเราจะไม่ได้พบครอบครัวแลมเบิร์ตอีก อย่างน้อยก็ไม่นาน ในตอนท้ายของภาพยนตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกได้รับการแก้ไขแล้ว แล ะเรายังได้รับความหวังริบหรี่ว่า จอช อาจสามารถคืนดีกับเรไนได้ ที่สำคัญที่สุด ประตูสู่ถ้ำของปีศาจหน้าลิปสติกดูเหมือนจะปิดลงโดยดี

อย่างไรก็ตาม ยังมีแง่มุมต่างๆของจักรวาลหนังเื่องนี้ที่สามารถสำรวจได้ในภาพยนตร์เรื่องต่อไป หนังน่าจะอยู่ในรูปแบบของสปินออฟมากกว่า ภาคต่อโดยตรง เรื่องนั้นชื่อว่า Thread  An Insidious Tale ยังอยู่ในผลงานติดดาวของ เจมส์ วาน ผู้ร่วมสร้างซีรีส์ซึ่งกำกับภาพยนตร์ Insidious สองเรื่องแรกจากบทภาพยนตร์

โดยลีห์ แวนเนลล์ หุ้นส่วนที่สร้างสรรค์และร่วมงานกันมานานของเขา ได้แสดงตัวอย่างเบื้องหลังของภาคแยกในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ เขาเปรียบเทียบแนวทาง กับวิธีที่เขาสร้างจักรวาลของ The Conjuring ด้วยการเพิ่มเติมเช่น The Nun และ Annabelle 

ซึ่งอธิบายว่ามีพิพิธภัณฑ์ผีสิง มีสิ่งประดิษฐ์ผีสิงต่างๆ มากมายที่เราสามารถแยกเรื่องราวออกจากกันได้ และเป็นบางสิ่งที่มีจิตวิญญาณเดียวกันจริงๆ ลีห์กับฉันสร้างสถานที่นี้ขึ้นมาในชื่อว่า The More ในโลก Insidious และ เรารู้สึกเหมือนมีเรื่องราวมากมายภายในนั้นที่เราสามารถบอกเล่าได้

มีสองสิ่งที่ต้องระวังระหว่างเครดิตของ Insidious The Red Door อันดับแรก เพลงที่เล่นเหนือชื่อตอนท้าย เสียงอาจฟังดูคุ้นเคยหากคุณเคยดู แพนธ่อมออฟ โอเปร่า ของโจเอล สแมสเชอร์ เพราะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้กำกับ Insidious และแสดงนำโดย Patrick Wilson ซึ่งร้องเพลงร่วมกับ Ghost วงเมทัลสัญชาติสวีเดน  รีวิว วิญญาณตามติด: ประตูผีผ่าน Insidious: The Red Door

เนื้อเพลงดูเหมือนจะสะท้อนถึงเนื้อเรื่องของแฟรนไชส์ ​​Insidious ทำออกมาได้ดี และนี่เป็นงานชิ้นโบแดงอีกเรื่องของ แพทริก วิลสัน ที่เขานั้นได้กำกับเรื่องนี้เป็นครั้งแรก เรื่องแรก และทำได้ดีมากๆ เมื่ออ่านเครดิตทั้งหมดให้จบ แล้วคุณจะได้เห็นประตูสีแดงบานสุดท้ายที่ตอนนี้ทาสีดำ

 แสงที่ดับลงในตอนท้ายของภาพยนตร์ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณว่าพอร์ทัลเฉพาะนี้ระหว่าง The Far และโลกของเราปิดลงแล้ว ยกเว้นหลังจากเครดิต ไฟจะกะพริบอีกครั้ง บางทีปีศาจหน้าลิปสติกยังไม่จบกับโลกของสิ่งมีชีวิต ก่อนที่ Insidious 5 จะวางจำหน่าย เราทราบเกี่ยวกับภาคต่อไปแล้ว นั่นเป็นวิธีที่เรารู้ ว่ามันยังไม่จบ มีการประกาศ ภาคแยกของ Insidious  แล้ว ภาคแยกมีชื่อว่าThread: An Insidious Taleและนำแสดงโดยแมนดี้ มัวร์และคุมาอิล นันจิอานี