เว็บดูหนังเถื่อน  รีวิว CUBE เป็นภาพยนต์แนวสยองขวัญ จากญี่ปุ่นแดน ที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ชื่อเดียวกันสัญชาติแคนาดา ที่เมื่อ 20 ปีก่อนได้กระแสตอบรับดีเกินคาด เป็นหนังต้นทุนต่ำ (ประมาณ 365,000 CAD หรือประมาณ 9.2 ล้านบาทไทย) ที่ทำรายได้สูงเป็น 32 เท่าของทุนสร้าง  และในปี 2021 ทางฝั่งญี่ปุ่นก็นำมาดัดแปลงใหม่และตอนนี้เข้าฉาย รีวิวหนัง หนังผี  มีพากย์ไทยด้วย ผู้เขียนเลยต้องขอโอกาสดูสักหน่อยว่าจะชวนลุ้นระทึก ชวนสยองขวัญเหมือนกับเวอร์ชั่นออริจินัลแค่ไหน ว่าแล้วไปติดตามกับรีวิวหนังเรื่องอื่นได้ที่  Devil in Ohio

เมื่อคนที่ไม่รู้จักกัน 6 คนมาพบว่าตัวเองติดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ซึ่งมีประตูทางออกทั้งหกด้านที่นำไปสู่กับดักที่สุดแสนจะอันตราย และทางรอดเดียวของพวกเขาที่มีคือ ทุกคนต้องร่วมมือกันไขปมปริศนาลึกลับต่าง ๆ ที่เข้ามาถึงพวกเขาทุกนาที เพราะไม่เช่นนั้นทั้ง 6 ชีวิตจะต้องกลายเป็นบุคคลสาบสูญที่ติดอยู่ในลูกบาศก์มรณะนี้ไปตลอดกาล สูดหายใจมิดปอด กอดกายไว้ให้แน่น และเร่งฝีเท้าสู่เกมเย้ยความตายที่ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเองสำหรับแฟนหนังไซไฟน่าจะจดจำ ‘Cube’ ภาพยนต์ของแคนาดาที่กลายเป็นปรากฏการณ์ในปี 1997

จากทั้งความเหนือชั้นในการเล่าเรื่องที่ผสมทั้งความโหดและเกมปริศนาห้องปิดตายที่ต้องอาศัยปัญญาในการเอาตัวรอด และทดสอบสันดานดิบของคนแปลกหน้าเมื่อต้องมาอยู่ร่วมกันภายใต้สถานการณ์อันกดดันที่ตายได้ทุกขณะภาพยนต์ในภาคแรก

ประสบความสำเร็จจนมีภาคต่อออกมาอีก 2 ภาคคือ ‘Cube 2:Hypercube’ (2002) และ ‘Cube Zero’ (2004) ซึ่งทั้ง 2 เรื่องไม่ได้ผู้กำกับจากภาคแรกอย่าง วินเซนโซ นาตาลี (Vincenzo Natali) ได้เข้ามามีส่วนร่วมแต่อย่างใด และแม้ตัวแฟรนไชส์จะให้คำตอบของปริศนาที่ชัดเจนมากกว่าหนังภาคแรก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันช่างดูไร้รสนิยมห่างไกลจากหนังภาคแรกไปมากโขเลยทีเดียว

ที่ต้องนำเสนอเรื่องแบบนี้ก็เพราะ ‘Cube’ มาสเตอร์ ในปี 2021 ที่ได้รีเมคหนังเรื่องนี้โดยชาวญี่ปุ่นนั้น แม้ทีมงานที่ได้นำเสนอเรื่องราว ตามเนื้อเรื่องของหนังภาคแรกที่เคยเป็นตำนาน โดยเสริมเพิ่มเติมแต่งตัวละครของเรื่องให้ลึกและแข็งแรงขึ้นในแบบญี่ปุ่น แต่ทว่าภาพรวมมันก็ยังไร้รสนิยม ไม่ต่างจากทีมสร้างหนังภาคต่อที่เคยย่ำยีแฟรนไชส์ชุดนี้เอาไว้เลยโดยส่วนตัวของผู้เขียนได้รับชมฉบับญี่ปุ่นนี้ตอนที่เข้าฉายในไทยเมื่อต้นปีที่แล้ว ก่อนที่เน็ตฟลิกซ์จะนำมาฉายและกลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในตอนนี้

และต้องบอกโดยความจริงว่าในตอนนั้นค่อนข้างไปทางผิดหวังจนไม่อยากพูดถึงอยู่มากทีเดียว และเมื่อได้กลับมาดูใหม่อีกครั้งผ่านเน็ตฟลิกซ์ก็มีหลายอย่างที่มองว่าตอนนั้นอาจจะดูแคลนมากไปสักหน่อย และหลายอย่างก็ตอกย้ำเช่นเดิมว่าหนังบางเรื่องก็ไม่ควรต้องถูกดัดแปลงเลยเสียจะดีกว่า

ในแบบฉบับของญี่ปุ่นได้ผู้กำกับที่หน้าใหม่อย่าง ชิมิสุ ยาสุฮิโกะ (Shimizu Yasuhiko) ที่เคยทำหนังเพียงเรื่องเดียวก่อนหน้าเป็นแนวเขย่าขวัญจิตวิทยาชื่อ ‘Vise’ (2019) และไปคว้ารางวัลในเทศกาลหนังสยองขวัญมาได้ทำให้เขาได้รับโอกาสสำคัญในการดัดแปลงหนังไซไฟเรื่องนี้

จุดดึงดูดนอกไปจากความมีชื่อเสียงในกลุ่มเฉพาะของต้นฉบับแล้ว หนังฉบับใหม่นี้ยังได้ดาราแม่เหล็กของญี่ปุ่นเรียงแถวกันมาคับคั่งทีเดียว ทั้ง ซึดะ มาซากิ (Suda Masaki) โอกาดะ มาซากิ (Okada Masaki) ไซโตะ ทาคุมิ (Saitoh Takumi) วาตานาเบะ แอนน์ (Watanabe Anne) เป็นต้น ก็น่าจะการันตีความนิยมในบ้านได้ตั้งแต่ก่อนฉายแล้ว

หนังมีพัฒนาการในส่วนที่ดีและถูกพูดถึงมากคือการเลือกนำเสนอกลุ่มคนที่แตกต่างจากต้นฉบับ ตัวแทนของกลุ่มคน 6 คนในหนังเรื่องนี้มีนัยของความขัดแย้งระหว่างรุ่น วัฒนธรรมชอบดุด่าเด็กของพวกคนรุ่นเก่าที่สื่อผ่านตัวละครเจนบูมเมอร์ของประธานบริษัท ความประหม่ากดดันจากปัญหาจิตใจรวมถึงความไม่เป็นโล้เป็นพายของหนุ่มสาวเจนวายเจนแซดที่สื่อผ่านตัวละครของซึดะและโอกาดะ

ความกดดันจากภาระความรับผิดชอบทั้งเรื่องการทำงานและครอบครัวในฐานะวัยแรงงานของคนเจนเอ็กซ์ผ่านตัวละครของไซโตะ และความฉลาดเฉลียวแต่ขาดวิธีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นในเจนอัลฟาขึ้นไปผ่านตัวละครเด็กชาย โดยมีตัวละครของวาตานาเบะสื่อถึงความเป็นผู้หญิงที่ไม่มีปากมีเสียงในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่อย่างลงตัว

ตรงจุดนี้คิดว่าภาพยนต์ได้รีเมคอย่างดีมาก ยิ่งเป็นการขยายปมในจิตใจของตัวละครนำของซึดะที่เคยสูญเสียบุคคลที่รักในครอบครัวไปด้วยก็ทำให้สิ่งที่ตัวละครตอบสนองต่อความกดดันต่าง ๆ ดูจริงขึ้น ทว่าปัญหาใหญ่จากความพยายามนั้นก็คือ ความไม่น่าเชื่อถือจากปมอดีตที่มากเกินไปตัวละครได้ถูกกดดันจนพวกเขาได้ตอบโต้กับอันตรายที่หาทางออกไม่เจอ

มันก้ำกึ่งระหว่างตัวละครโง่ ๆ ที่เล่นได้แปปเดียวแล้วตายไปไว ๆ กับตัวละครที่สมจริงจิตใจอ่อนแอจนไม่สามารถเอาตัวรอดเองได้เลย อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ผู้ชมว่ามองออกเป็นท่าไหนมากกว่ากัน แต่ผลอย่างหนึ่งก็คือในฐานะของหนังที่มีส่วนผสมของแนวเอาตัวรอด สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตัวละครขาสั่นยืนรอความตาย มันช่างอึดอัดและน่ารำคาญเป็นที่สุดและทำให้หนังเรื่องนี้ดูไม่สมจริงในการนำเสนอภาพ

ในแบบฉบับการตายของตัวละครมันน่าชวนขนหัวลุกและถูกแสดงออกมาเต็มจอ ทั้งเลเซอร์ที่หั่นร่างกายคนออกเป็นลูกเต๋า น้ำกรดที่ถูกฉีดใส่ใบหน้าจนยุบลงไปทั้งกระโหลก หรือฉากง่าย ๆ อย่างใบเลื่อยที่บาดขาอย่างหวุดหวิด หนังในปี 1997 ที่เทคโนโลยีการถ่ายทำสู้ปัจจุบันไม่ได้เลย กลับทำได้น่าเชื่อถือและสมจริงกว่ามาก

แต่หนังในปี 2021 กลับเต็มไปด้วยซีจีปลอม ๆ ที่ดูออกว่าไม่ใกล้เคียงของจริงเลย เมื่องานเทคนิคพิเศษไม่ส่งเสริมให้คนดูอิน มันก็พลอยให้ผู้ชมมีสติและเวลาไปคิดถึงความไม่สมจริงในส่วนอื่นเช่นฉากดราม่าต่าง ๆ ที่ฐานแข็งแรงแต่กลับนำมาขยายได้ไร้รสนิยม ตัวละครของโอกาดะที่ควรจะส่งพลังเปลี่ยนบรรยากาศของหนังให้ชวนขนลุกก็กลายเป็นอีกแค่หนึ่งตัวละครที่ช่วยกันทำให้น่ารำคาญขึ้นไปอีก

แถมเมื่อถึงจุดหนึ่งบทหนังก็โกงเอาหน้าด้าน ๆ ในการแหกฎของตัวเองที่ห้องแต่ละห้องจะแยกขาดกันอย่างสิ้นเชิง โดยบังคับให้ตัวละครหนึ่งต้องตายผ่านทางกลไกกับดักที่ทะลุข้ามมาจากอีกห้องหนึ่งเสียดื้อ ๆส่วนในแง่ของการนำเสนอในการนำเอาวิชาคณิตศาสตร์มาใช้แก้ปัญหาของเรื่องที่ว่าห้องลูกบาศก์มีกลไกกับดักโดยมีรหัสตัวเลขใบ้เส้นทางที่ถูกต้องไว้ เมื่อพิจารณาตามดี ๆ

ก็พบว่าในฉบับปี 1997 กลับมีการอธิบายในส่วนของการหาทางออกสุดท้ายที่มีหนึ่งห้องที่อยู่นอกกลไกของโครงสร้างนั้นจะดูเข้าท่ากว่าแม้จะเข้าใจตามได้ยากกว่าก็ตาม ซึ่งในฉบับญี่ปุ่นนั้นแม้จะอธิบายได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปและเข้าใจง่าย ทั้งในเรื่องจำนวนเฉพาะหรือจัตุรัสคาร์ทีเซียนที่อธิบายภาพโครงสร้างสามมิติ แต่มันก็ยังดูรู้สึกว่าไม่ค่อยเคลียร์ในแง่คำอธิบายสุดท้ายอยู่ดีสรุปได้ก็คือหนังฉบับญี่ปุ่นนี้

มีเรื่องราวที่เข้มข้นกว่าต้นฉบับแค่เรื่องการวางตัวละคร และปมความขัดแย้งที่สะท้อนภาพสังคมโลกยุคใหม่ รวมไปถึงการหักมุมในตอนจบที่น่าตื่นเต้นพอสมควร ในขณะที่ส่วนอื่นนั้นหนังที่ทำมาก่อนหน้าถึง 24 ปีกลับชนะขาดไปเลย ใครสนใจชมต้นฉบับปี 1997 ตอนนี้สามารถรับชมได้ทางบริการไพรม์วิดีโอครับ

ตามที่เห็นมาตั้งแต่แรกแล้วนะ ถ้าต้องการดูหนังเรื่อง CUBE กล่องเกมมรณะ พากย์ไทย ในฉบับแห่งแดนปลาดิบ เพราะต้นฉบับเวอร์ชั่นแคนาดาเลย เนื้อเรื่องแปลกน่าสนใจ เรื่องของคนแปลกหน้าหลากหลายอาชีพ หลายช่วงอายุมารวมตัวกันโดยไม่ทราบสาเหตุ พวกเขาต้องเจอเรื่องสะพรึงจากกัปดักในเกม คอนเซ็ปต์ชวนลุ้นระทึก น่าตื่นเต้นแต่น่าเสียดายที่การดำเนินเรื่องเลยค่อนข้างยืด

นักแสดงที่ผู้คนชื่นชอบกันหลายคน ถึงจะเปิดประตูนี้ไปประตูนั้นแต่เดี๋ยวก็วนเวียนคุยกันอีกแหละเรียกว่าถ้าสภาพร่างกายขณะดูไม่พร้อม เช่นเหนื่อยและเพลีย บวกกับได้นั่งเก้าอี้สบาย ๆ แอร์เย็น ๆ รับรองว่าหลับแน่นอน ผู้เขียนหนึ่งคนค่ะเล่นเกมกับเขาด้วย แต่เป็นเกมซ่อนตาดำนะ และน่าเศร้าไปอีก เพราะหลังตื่นมาตัวละครก็เหมือนยังอยู่ที่เดิม เพราะทุกห้องมันเหมือนกันหมด  สำหรับคนที่คาดหวังอยากเห็นเลือดสาด ดูสะอิดสะเอียด สยดสยองแบบภาพยนตร์ SAW หรือหนังแนว ๆ นั้น เรื่องนี้นับว่ามีน้อย น้อยกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับที่มีน้อยอยู่แล้วไปอีก

แต่เมื่อได้ดูพากย์ไทยอีกรอบนึง ทำให้เข้าถึงได้มากกว่าและ รู้สึกสนุกกว่ารอบแรก เพราะการวนเวียนคุยกันของตัวละครทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น ว่าตัวเลขที่แต่ละประตูมันสำคัญยังไง ดูไป ๆ ก็แอบคิดว่าเรียนเลขเก่งมันก็มีประโยชน์ตอนนี้ด้วยนะเนี่ย

กัปดักแต่ละอันมีความคล้ายต้นฉบับอยู่บ้างแต่นำมาทำใหม่ปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น ดูทันสมัยขึ้น ส่วนอันที่ไม่เหมือนของเดิมก็ทำดี ถูกใจคนชอบหนังสยองขวัญอย่างผู้เขียนอยู่นะ และก็ถูกใจตอนจบด้วย เพราะส่วนตัวแอบเดาไว้ว่ามันต้องมีเซอร์ไพรส์ และมันก็มีจริง ๆ ถูกใจเพราะเดาถูก 555

สำหรับผุ้ชมที่อยากดูแนวสยองขวัญ เล่นเกมหาทางเอาชีวิตรอด อย่าง SAW, Squid Game หรือ Escape Room ก็คงจะถูกใจภาพยนตร์ CUBE กล่องเกมมรณะ (2021) เวอร์ชั่นญี่ปุ่น อยู่บ้างไม่มากก็น้อย เนื้อเรื่องการติดอยู่ในห้องทรงลูกบาสก์ สับสนว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ต้องทำอย่างไร ต้องไปทางไหนและต้องหลบหลีกกัปดักเพื่อเอาชีวิตรอด ดูน่าสนใจและชวนตื่นเต้น

และเรื่องนี้ได้ดำเนินไปไม่ค่อยเร็วมากนัก ทำให้ต้องพยายามตั้งใจดู บวกกับความสยดสยองเลือดสาดมีน้อย เน้นการพูดคุยของตัวละคร ทำให้เกิดความเบื่อเป็นช่วง ๆ ให้คะแนน 6/10 ถ้าใครเป็นแฟนหนังสยองขวัญ และมีเวลาก็ลองรับชมกันดูค่ะ

ภาพยนตร์ : CUBE กล่องเกมมรณะ (2021)แนว : สยองขวัญไซไฟนักแสดง : มาซากิ ซูดะ, แอนน์,  มาซากิ โอกาดะ, ฮิคารุ ทาชิโระ, ทาคุมิ ไซโตะ, โคทาโระ โยชิดะระยะเวลาการรับชม : 1 ชั่วโมง 48 นาทีช่องทางการรับชม : Netflix พากย์ไทยให้คะแนน : 6/10

จุดเด่นการนำเสนอตัวละครที่เป็นตัวแทนของคนแต่ละช่วงวัยทำได้น่าสนใจ วิธีการอธิบายคณิตศาสตร์เพื่อใช้แก้ปัญหาทำได้เข้าใจง่ายพอควร ปริศนาของเรื่องวางมาได้น่าสนใจมีการหักมุมที่ทำได้ดีแตกต่างจากต้นฉบับจุดสังเกตโปรดักชันย่ำแย่โดยเฉพาะซีจี บทหนังมีความโกงแหกกฎที่วางเอาไว้เอง มีหลายจุดที่ชวนหงุดหงิดโดยเฉพาะการแสดงที่ไม่เหมาะกับหนังเอาตัวรอดเลย ความเวอร์เกินเบอร์แบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นก็ยังมีให้เห็นเป็นปัญหาอยู่เช่นเคย