รีวิว เอเลียน ปะทะ พรีเดเตอร์ (2004)

รีวิว เอเลียน ปะทะ พรีเดเตอร์ (2004)

รีวิว เอเลียน ปะทะ พรีเดเตอร์ (2004)

 

 

สปอยหนังใหม่ ฮ่าๆ นี่คือโปรเจคท์ในตำนานครับ เพราะมันว่าจะทำไม่ทำมาเป็นสิบๆปีแล้ว จนในที่สุดก็เป็นรูปเป็นร่างได้เพราะ Paul W.S. Anderson เจ้าของผลงาน Mortal Kombat, Event Horizon และ Resident Evil ครับ กับเรื่องนี้พี่แกเขียนบทและกำกับเอง (บทนี่ได้ Dan O’Bannon กับ Ronald Shusett ผู้ให้กำเนิดเรื่อง Alien มาช่วยคิดด้วย)

ผมว่าการผูกเรื่อง ให้ 2 ตัวนี้มาเจอกันนี่ทำได้ดีและเข้าท่ากว่า Freddy Vs. Jason มากเลยนะคับ ก็เรื่องมันเริ่มที่ ชาร์ลส บิชอป เวย์แลนด์ (Lance Henriksen) นักธุรกิจรายใหญ่ได้พบปิรามิดที่ฝังอยู่ใต้น้ำแข็งที่แอนตาร์คติกจึงได้ฟอร์ มทีมสำรวจที่นั่น นำโดย อเล็กซ่า วูดส์ (Sanaa Lathan) นักปีนเขาที่ชำนาญการเดินทางบนน้ำแข็ง เมื่อพวกเขาได้ไปถึงก็พบว่าที่นี่เป็นสถานที่ๆเหล่าพรีเดเตอร์ใช้เพื่อต่อกร เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี

 

รีวิว เอเลียน ปะทะ พรีเดเตอร์ (2004)

 

กับเอเลี่ยน จุดประสงค์ก็คือ หากพรีเดเตอร์ตนใดสามารถเอาชนะพวกเอเลี่ยนได้แล้ว ก็จะถือว่าบรรลุนิติภาวะ เป็นนักล่าตัวจริงได้ แต่ก็นั่นแหละ แล้วไอ้คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย ก็ต้องมาอยู่กลางสงครามของไอ้ 2 ตัวเนี่ย แล้วจะทำไงกันล่ะทีนี้ งานนี้ ต้องรอดครับ

ผมว่าผูกเรื่องได้เข้าท่าอ้ะ ไม่มีปัญหาเลย เพราะถ้าใครจำได้ (ซึ่งคงมีน้อยคนอ้ะนะ) ใน Predator 2 นั้น ในฉากท้ายๆภายในยานของพวกพรีเดเตอร์นั้น เราจะได้เห็นกระโหลกของสิ่งมีชีวิตที่พวกมันล่า และ 1 ในนั้นก็คือ กระโหลกของเอเลี่ยน ดังนั้นประเพณีนี้จึงทำใจรับได้ไม่ยากเย็นนัก ต่อมาการเดินเรื่องก็รวดเร็ว ฉับไว ตอนต้นๆโอเคอาจจะอืดมากไปหน่อย แต่พอเอเลี่ยนเจอกับพรีเดเตอร์แล้ว ความมันส์ก็มาไม่ยั้งครับ ตีกันตลอด แต่บอกตรงๆยังตีกันไม่สะใจเลยอ้ะ ยิ่งนางพญาเอเลี่ยนนั่น ยังไม่ถึงไหนเลย น่าจะตีกันนานๆหน่อย

 

รีวิว เอเลียน ปะทะ พรีเดเตอร์ (2004)

 

อีกจุดที่ผมชอบคือ หนังพยายามผูกให้เรื่องเกี่ยวกับเอเลี่ยนตอนต่อๆไป (เพราะ ในเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหนังชุด Alien ครับ) นั่นคือ ตัวมหาเศรษฐีนักธุรกิจชาร์ลส บิชอปนั่น คงจำได้นะครับว่า บิชอป คือชื่อของหุ่นที่ริปลี่ย์ไม่ไว้ใจใน Aliens และก็แสดงโดย Lance Henriksen เช่นกัน ซึ่งแม้หนังจะไม่ได้บอกตรงๆ แต่แฟนๆเอเลี่ยนก็น่าจะรู้ครับว่าพี่แกนี่แหละเป็นคนสร้างและเป็นต้นแบบให้ กับหุ่นบิชอปที่ปรากฎตัวใน Aliens (ลองสังเกตมุขตอนที่พี่แกเอามือวางแล้วก็เอาปากกาทิ่มช่องว่างระหว่างนิ้ว เล่นสิครับ มุขเดียวกับที่ใช้ใน Aliens เลย) ก็ถือเป็นลูกเล่นเล็กๆที่แฟนหนังชุด Alien น่าจะชอบ

 

รีวิว เอเลียน ปะทะ พรีเดเตอร์ (2004)

ส่วนพรีเดเตอร์ ก็ยังคงความเป็นนักล่าอย่างเต็มที่ รวมไปถึงมีกฎและมีความนับถือต่อผู้ล่าด้วยกันอีกด้วย ทำให้ตัวพรีเดเตอร์มีมิติครับ ถือเป็นอะไรที่ดีมากทีเดียว และผมชอบอ้ะที่เรื่องดำเนินไปแบบที่เป็น เพราะมันถือว่าเหมาะและแปลกใหม่ดีทีเดียว ทำให้เราได้รู้ว่าพรีเดเตอร์ไม่ได้บ้าฆ่าคนไปเรื่อย มันมีขอบเขตของมันอยู่ ส่วนเอเลี่ยนก็ไม่ได้เป็นแค่ไอ้ตัวน้ำลายยืดเท่านั้น มันฉลาดและเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็น เรียกว่า ทีมงานค่อนข้างศึกษาธรรมชาติของเจ้า 2 ตัวนี้มาอย่างถ่องแท้ทีเดียว

และ ขอบอกครับ ว่าทำไมพรีเดเตอร์บางตัวโง่จัง ก็มันยังไม่บรรลุนิติภาวะนี่ครับ ยังเด็กและอ่อนประสบการณ์ ไม่เหมือนไอ้ตัวที่ตีกับพี่อาร์โนลด์นี่ฮะ ตัวนั้นน่ะมันผ่านมาหลายศึกแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นความฉลาดของคนเขียนบทเหมือนกันที่เอาพรีฯที่อ่อนประสบการณ์มา ใช้ ก็ถ้าเอาพรีเก่งๆมา หนังจะสนุกอะไรล่ะครับ แป๊บเดียวก็จบแล้วล่ะ

 

รีวิว เอเลียน ปะทะ พรีเดเตอร์ (2004)

 

สรุป ว่าดูเอามันส์พอได้ครับ พอไหวนะ ผมออกจะชอบมากกว่า Freddy Vs. Jason อยู่นิดนึง ดูแบบไม่ต้องคิดมากครับ เอามันส์ อย่างเดียวพอ ก็เหมาะกับคอหนังของไอ้ 2 ตัวเนี้ยอ้ะคับ ถ้าชอบ 2 ตัวนี้ก็น่าจะสนุก แต่ถ้าดูแล้ว ไม่เคยชอบไอ้บ้า 2 ตัวนี้เลย ก็อย่าไปดูเลยครับ คาดว่าคงไม่ชอบขึ้นมาหรอก

เกิดเหตุการณ์ประหลาดเมื่อมีการค้นพบแหล่งความร้อนบางอย่างที่ใต้พื้นน้ำแข็ง ณ ขั้วโลกใต้ และนั้นทำให้หลายคนคิดว่าสิ่งนี้คือโบราณสถานที่ยุคแรกๆ ทำให้ต้องหาสุดยอดมือดีมีประสบการณ์มาร่วมภารกิจสำรวจค้นหาโดยมี ชาร์ลส บิชอป เวย์แลนด์ (Lance Henriksen) เป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่ริเริ่มให้ทำการตรวจสอบว่าโราณสถานที่ที่เป็นปิรามิดนี่มีอยู่จริง ซึ่งทีมนำโดย อเล็กซ่า วูดส์ (Sanaa Lathan) นักปีนเขาที่ชำนาญบนทางน้ำแข็ง แล้วพวกเขาก็ไปยังสถานที่แห่งนั้นด้วยความที่ไม่รู้เรื่องราวทำให้กลายเป็นผู้ทำให้เกิดสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์นั้นคือเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์ ทำให้คนที่รอดต้องหาทางก่อนโดนเป็นแหล่งเพาะตัวอ่อนหรือโดนกำจัดให้พ้นทาง

 

 

การจะให้สัตว์ประหลาดต่างดาวแห่งยุคมาเจอกันนับว่าผูกเรื่องได้น่าสนใจและทำให้เหมาะสมกันดี เรื่องการถ่ายทอดเล่าถึงความสัมพันธ์ของเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์ที่มาตั้งแต่ยุคอารยธรรมโบราณนั้นนับว่าลงตัว คือเอเลี่ยนเปรียบกับการทดสอบของเหล่าพวกพรีเดเตอร์ ว่าถ้าพรีเดเตอร์สามารถฆ่าหรือกำจัดเอเลี่ยนได้จะบรรลุนิติภาวะเป็นนักล่าโดยสมบูรณ์ทำให้พรีเดเตอร์อาจจะดูอ่อนๆไม่เก่งเหมือนอย่างที่เห็นในภาคเฉพาะตัวของมันเอง เพราะที่เคยเห็นนั้นบรรลุนิติภาวะมาแล้ว จะมากประสบการณ์และเก่งเนื่องจากผ่านอะไรต่อะไรมาเยอะ

ถ้าดู Predator 2 ในช่วงท้ายๆเรื่องในยานจะเห็นว่าจะมีอยู่กระโหลกหนึ่งที่เป็นของเอเลี่ยน ซึ่งจะเป็นปมของเรื่องที่จะมาคลายในภาคนี้ว่าเป็นมายังไง ที่สำคัญคุณอาจคุ้นๆหน้าตาและชื่ออย่าง ชาร์ลส บิชอป เวย์แลนด์ (Lance Henriksen) ที่เป็นนักธุรกิจเพราะตัวละครนี่เคยไปปรากฎใน Alien 2 และเป็นหุ่นยนต์ชื่อบิชอปเช่นเดียวกัน คิดว่าเป็นการเพิ่มความน่าสนใจในเนื้อเรื่องที่ไม่กระจ่างถึงแม้ไม่ชัดเจนแต่ถือว่าเป็นลูกเล่นให้กับแฟนๆเอเลี่ยนทั้งหลาย

 

 

บางคนคงรู้สึกถึงความอืดของเรื่องที่ดำเนินไป 40 นาทีแล้วยังไม่เห็นอะไรที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันเลยแต่บอกตรงๆนี่เป็นจุดการผูกเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งถ้าขาดไปจุดนี้ไปคิดว่าบางทีอาจทำให้เนื้อเรื่องดูไม่สมเหตุสมผลที่จะจับสองนักฆ่าอวกาศมาเจอกัน แต่พอเอเลี่ยนเจอกับพรีเดเตอร์แล้ว เรื่องก็ไปมันส์แบบไม่ยั้งกันเลยเหมือนจะหนักไปทางแอ๊คชั่นมากกว่าจะให้ดูออกมาสยองหรือน่าตื่นกลัวนี่หาแทบไม่ได้เลย

พรีเดเตอร์ยังคงความมีศักด์ศรีเหมือนเดิมคือไม่ฆ่าสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอหรือป่วยแต่ถ้าไม่ยั่วให้โกรธเข้าก็ไม่คิดละเว้นเหมือนกันเพราะอุตสาห์ปล่อยให้รอดแล้วยังมาตลบหลังก็เสร็จไปซะ การเพิ่มกฎและประวัติศาสตร์ทำให้ทราบเป็นอย่างดี ทำให้เอกลักษณ์ความสัมพันธ์ของเผ่าพันธุ์ยิ่งมีมิติเพิ่มขึ้น

 

 

ต้องบอกว่าภาคนี้มามืดจริงๆประมาณว่าให้เจ้าพวกเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์มาแบบซุ่มๆจะได้พอกันให้ลุ้น แถมยังมีสภาพของปริศนาต่างๆตามปิระมิดที่เปลี่ยนไปมาตามเวลาทำให้ทำลายแนวเดิมๆออกไปคือการอยู่ร่วมเป็นกลุ่มแต่ต้องแยกออกอย่างบังคับ หนังบางเรื่องจะชอบให้ตัวละครแยกย้ายไปมาแล้วสุดท้ายก็โดนเก็บทีละคนตามพล็อตเรื่องเก่าๆแต่นี่จะอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ๆทำให้ไม่รู้สึกเสียวหรือลุ้นจนตกใจเพราะตัวละครค่อนข้างเยอะ แต่เพื่อเพิ่มความตื่นตาเข้าแทนเรื่องความเสียวคือการใช้ลูกเล่นต่างๆอย่างพื้นหรือผนังของปิระมิดที่เปลี่ยนไปมาเหมือนการทำงานของเครื่องกลจนเป็นเหตุให้แต่ละคนเริ่มหลงทางและพลัดพรากจากกันไป ทำให้สไตล์การผจญภัยแบบไล่ล่าดำเนินไปได้พอดี

 

เอเลียน ปะทะ พรีเดเตอร์ (2004)

มีแนวการเล่นกับจินตนาการของคนตามแบบฉบับเอเลี่ยนภาคแรกคือให้คนดูตกใจและคิดไปเองเพราะเราจะไม่เห็นว่าใครโดนฆ่าหรือกระทำอย่างไรแต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถกระตุ้นแนวคิดได้ดีมากนัก พรีเดเตอร์ของเรานี่รู้สึกแปลกๆตรงที่ทำออกมาได้อ่อนมากแต่กลับกันก็เก่งมากด้วยจนเดาไม่ออกว่ายอดนักล่าแห่งอวกาศจะเป็นอยู่สภาพไหนเมื่อเจอกับพวกเอเลี่ยนมาเป็นฝูงๆ

แต่รูปแบบการไล่ล่าของพรีเดเตอร์นั้นไม่ค่อยจะชัดเจนเท่าไรเพราะจะเน้นหนักไปที่คนเล่นจะมีตัวเสริมอย่างเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์ช่วยเพิ่มความน่าสนใจไปเท่านั้นซึ่งจะเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเมื่อมาสู้กัน กลายเป็นว่าคนที่ถูกนับเป็นกลางของเรื่องยังต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าต้องเลือกพรีเดเตอร์ เหตุผลคือถ้าคุณไปเสี่ยงอยู่กับเอเลี่ยนแน่นอนว่าต้องโดนขังให้ตัวอ่อนฝังตัว

คือประทับใจตรงที่มีการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของพรีเดเตอร์และเอเลี่ยนโดยมีมนุษย์เป็นเสาหลักให้เกิดสงคราม และฉากที่ไม่เคยเห็นคือการเข้าใจกันของมนุษย์กับพรีเดเตอร์อย่างเข้าขาได้ดี แต่ว่าเรื่องช้าไปหน่อยเพราะต้องให้ตัวละครดำเนินเรื่องไปก่อนและสิ่งที่เคยเห็นหรือสัมผัสในหนัง Alien กับ Predator ก็หายไปมากด้วยทั้งการไล่าแบบเงียบหรือฉากที่สไตล์การฆ่าที่ดูกลายเป็นว่าธรรมดาไปเรียบร้อย

 

 

มนุษย์ผู้เป็นตัวกลางของระหว่างสงครามที่อุบัติขึ้น เป็นผลพวงให้เกิดการต่อสู้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิตในการเอาตัวรอดโดยมีเบื้องหลังของความน่ากลัวระหว่างเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์ที่ฆ่าอย่างไม่เลือกฝ่าย

เรื่องย่อ

การผจญภัยที่เหลือเชื่อและน่าสพรึงกลัวเริ่มต้นขึ้น เมื่อนักธุรกิจพันล้าน ชาร์ลส์ บิชอป เวย์แลนด์ (แลนซ์ เฮนริกสัน) รวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญ ในหลายสาขาจากนานาประเทศ ทั้งนักโบราณคดี นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ซึ่งนำทีมโดย อเล็กซ่า วู้ดส์ (ซานา เลแธน) ผู้เชี่ยวชาญปัญหาสิ่งแวดล้อมและนักผจญภัย เพื่อสำรวจตรวจสอบ “กระแสความร้อน” ที่ผุดกระจายขึ้นมาจากห้วงลึกของทวีปแอนตาร์คติ

 

 

สิ่งที่พวกเขาได้ประจักษ์ต่อสายตา ในความลึก 2,000 ฟุตใต้ผิวน้ำแข็ง สร้างความตื่นเต้นให้ในตอนแรก แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว พวกเขาได้ค้นพบปิรามิด ซึ่งเป็นการผสมกันของวัฒนธรรมแอซเทค, อียิปต์ และกัมพูชา ภายในปิรามิด พวกเขาได้พบกับบรรดาห้องที่ถูกสร้างเรียงเป็นแถว โดยใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากจนเห็นได้ชัดว่า อิทธิพลจากต่างดาว ได้เข้ามามีบทบาทมานานนับพัน ๆ ปีแล้ว ผนังของห้องเปลี่ยนโครงร่างได้โดยไม่มีใครคาดฝัน ทำให้ลูกทีมต้องติดอยู่ภายใน และทำให้พวกเขาถูกตัดขาดจากการติดต่อกับเพื่อนร่วมงาน

ในขณะที่กำลังเคลื่อนที่จากห้องหนึ่งไปสู่อีกห้องหนึ่ง ความจริงก็เผยตัวเองออกมา อสุรกายนักล่าจากต่างดาว มีชีวิตอยู่ด้วยการเฝ้ารอการวางไข่ทุก ๆ 100 ปีของ ราชินีเอเลี่ยน โดยบรรดานักรบผู้ล่าต่างดาวรุ่นใหม่ จะได้รับการทดสอบโดยการต่อสู้กับตัวอ่อนของเอเลี่ยน… ทีมงานจึงต้องล้มลุกคลุกคลาน อยู่ท่ามกลางพิธีกรรมของเรื่องราวที่เหลือเชื่อ และสงครามระหว่างเอเลี่ยนและนักล่าต่างดาว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *