รีวิวหนัง The Creator (2023) เดอะครีเอเตอร์ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เกี่ยวกกับสงครามระหว่าง AI และ มนุษย์

รีวิวหนัง The Creator

รีวิวหนัง The Creator หนังใหม่ล่าสุด (2023) ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์คือ The Creator (2023) เดอะครีเอเตอร์ หนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ที่บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ในมหาสงครามระหว่างมนุษย์กับ AI โดยเลือกใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่หลักในการถ่ายทำ รีวิวหนังดี โดยเนื้อหาเล่าเหตุการณ์จำลองในโลกของอนาคตที่เกิดสงครามขึ้นระหว่างมนุษย์และเอไอ เจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษถูกตั้งตัวเป็นนักล่าค่าหัวเอไอปัญญาประดิษฐ์แทน ที่มันอาจจะกลายเป็นหายนะและจุดจบในการทำลายมนุษยชนลงทั้งมวลเลยก็ได้เพราะมันเป็นอาวุธสังหารสุดล้ำที่มีความฉลาดและเก่งเป็นอย่างมาก เว็บดูหนังใหม่ บทความนี้ผู้เขียนก็นำข้อเท็จจริงสนุกๆ นอกจากการ รีวิวหนัง The Creator (2023) แล้ว ใครที่เป็นคอหนังไซไฟก็ไม่ควรพลาด และเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ? สามารถติดตามอ่านต่อได้ที่รีวิวหนังที่ข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ

รีวิวหนัง The Creator

 

 

รีวิวหนัง The Creator (2023) เดอะครีเอเตอร์ ผลงานกำกับของ แกเร็ท เอ็ดเวิร์ดส์

ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง รีวิวหนัง “The Creator” ศึกสงครามมนุษย์-AI เป็นผลงานการกำกับโดย Gareth Edwards (แกเร็ท เอ็ดเวิร์ดส์) ผู้กำกับที่เคยทำงานในภาพยนตร์เรื่อง Rogue One และ Godzilla ซึ่งในครั้งนี้เขาได้เขียนบทจากเนื้อเรื่องที่พัฒนาขึ้นเอง ร่วมทีมกับนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังมากมายอย่าง John David Washington, Gemma Chan, Ken Watanabe และ Allison Jae เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีคนไทยไปร่วมทำงานด้าน Production Service และเป็นนักแสดงประกอบด้วย น่าจะเป็นหนังฝรั่งที่มีชื่อคนไทยในเครดิตมากที่สุดเรื่องหนึ่งแล้วล่ะ

โดยทำงานร่วมกับทีมโปรดักชั่นไทยในการตะลุยถ่ายทำ 40 พิกัดใน 17 จังหวัด สำหรับสถานที่ในไทยที่ใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง The Creator ยกตัวอย่างเช่น

  • อ่าวนาง จ.กระบี่
  • สะพานมอญ จ.กาญจนบุรี
  • บ้านมุง จ.พิษณุโลก
  • ปราสาทสัจธรรม จ.ชลบุรี
  • แอร์พอร์ตเรียลลิงก์ สถานีมักกะสัน กรุงเทพฯ
รีวิวหนัง The Creator

เรื่องย่อ The Creator (2023) เดอะครีเอเตอร์

รีวิว The Creator (2023) มันคือเรื่องราวของโลกในปี 2070 ที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฟากทางความคิด หนึ่งคือฟากตะวันตก ที่ต่อต้านเอไออย่างจริงจัง หลังเผชิญกับหายนะจากระเบิดนิวเคลียร์ที่ถล่มแอลเอ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและเกลียดชัง พวกเขามองว่านี่คือสงครามที่ต้องเอาชนะให้เด็ดขาดเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ เมื่อได้ข่าวว่าเอไอกำลังพัฒนาอาวุธพิฆาต 

พวกเขาจึงส่งเจ้าหน้าที่พิเศษ โจชัว (John David Washington จากหนังเรื่อง ‘Tenet’, ‘BlacKkKlansman’ และ ‘Amsterdam’) มาเพื่อแทรกซึมสังหารผู้สร้างและช่วงชิงอาวุธนั้นมา

แต่อีกฟากหนึ่งคือ นิวเอเชีย ที่ซึ่งมนุษย์ใช้ชีวิตร่วมกันกับเอไออย่างผาสุกนั้น กำลังระส่ำเพราะมนุษย์จากฟากฝั่งตะวันตกมุ่งมั่นเพื่อชัยชนะในสงคราม แต่เมื่อมาถึง เขากลับได้รับรู้ว่าอาวุธชิ้นนั้นคือเด็กหญิงคนนึง ที่ชื่อ อัลฟี (Madeleine Yuna Voyles)

รีวิวหนัง The Creator

ความน่าสนใจของภาพยนตร์

ความโดดเด่นและสดใหม่ของหนังไซไฟเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นภาพของการแบ่งโลกออกเป็น 2 ฟากฝั่งทางความคิดที่สะท้อนไปถึงวัฒนธรรม และความขัดแย้งทางแนวคิดเกี่ยวกับ AI และในทางการเมือง ฝั่งนิวเอเชียคือตัวแทนของความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่โอบรับ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม รีวิว The Creator: สงครามคนปะทะ AI ไซไฟประเด็นคุ้น

ภาพของโลกอนาคตแบบ Cyberpunk ท่ามกลางทุ่งนาป่าเขา ชนบท สถานที่และบรรยากาศแบบไทย ๆ จึงเป็นอะไรที่โคตรล้ำ แปลกตา และมีเอกลักษณ์มาก แต่ในขณะเดียวกันมันก็ดูกลมกลืนมาก ๆ ชนิดที่เด็กวิ่งเล่นกับหุ่นยนต์ได้แบบไม่ตกใจ จนผู้เขียนแอบรู้สึกว่าฉากต่าง ๆ นี่คือผลจากการ Prompt คำสั่งให้ Midjourney คอย Generate ออกมาแน่ ๆ

ในอีกด้านหนึ่งมันก็เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า อเมริกากลายเป็นตัวแทนของมนุษย์เสรีนิยม (หรือตำรวจโลก) ที่ต้องการกำจัดศัตรูผู้รุกรานชาติ (ซึ่งจะพาลให้นึกไปถึง 9/11 ก็ไม่แปลก) หรือในแง่ของการเป็นตัวร้าย ในขณะที่นิวเอเชียนั้นเชื่อว่า AI ไม่ต่างจากคน มีความรู้สึก 

ความสัมพันธ์ สังคม ศาสนา ฯลฯ (มี AI บวชเป็นพระด้วย!) แต่อเมริกากลับมองเห็น AI เป็นเพียงเครื่องมือจักรกลที่วิวัฒน์ตัวเอง และพร้อมจะคุกคามมนุษยชาติได้ตลอดเวลา ซึ่งข้อขัดแย้งนี้มันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ แล้วในโลกปัจจุบัน


 

 

รีวิวหนัง The Creator

 

 

หนังแอ็คชั่นไซไฟที่ถ่ายทำในไทยกว่า 80% งานสร้างยิ่งใหญ่อลังการ

ดูหนัง The Creator (2023) หนังควรจะรู้จักตัวเองเป็นอย่างดีในเรื่องนั้นซึ่งอาจดูซ้ำซากและซ้ำซากจำเจ ไม่ใช่เรื่องใหม่มากนักเมื่อเทียบกับภาพยนตร์หลายเรื่องที่มนุษย์ปะทะกับ AI เรื่องนี้เราแทบจะเดาได้เลยว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร อาจจะต้องเสียใจบ้างที่เมื่อหนังพูดถึงมนุษย์บุก AI ก็ไปได้ไม่ไกลนักทั้งในเรื่องและตัวละครในหนังที่ดูเบาบาง 

แต่หนังก็น่าสนใจมากกับประเด็นการไล่ AI มันเหมือนกับความพยายามที่จะลบล้างเผ่าพันธุ์นี้ออกจากโลก ความกลัวว่าอเมริกาจะใช้กำลังและวางตำแหน่งตัวเองเป็นมหาอำนาจ (ซึ่งดูใกล้เข้ามาซ้อนทับกับโลกปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆ)

สิ่งหนึ่งที่เราซึ่งเป็นผู้ชมน่าจะเห็นพ้องต้องกันก็คือผลงานของหนังเรื่องนี้ยิ่งใหญ่และอลังการมาก เมื่อเราได้ยินว่างบประมาณการผลิตของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ประมาณ 80 ล้านเหรียญ เราค่อนข้างแปลกใจกับหนังที่ดูใหญ่โตจนคิดว่าน่าจะแพงกว่านี้ 

งานภาพ CGI มีความสวยงามและเรียบเนียน โดยเฉพาะการชมบนจอ IMAX ขนาดยักษ์ ทำให้ฉากแอคชั่นต่างๆ ตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น เสียงการสั่นสะเทือนของการระเบิด ความประณีตของการสร้างภาพยนตร์ที่มีฉากหลังสวยงามตระการตาของประเทศไทย ถือว่าค่อนข้างคุ้มกับราคาตั๋วที่จะดูในโรงภาพยนตร์


[ป้ายกำกับส่วน=”H3.1″]

[ช่องว่าง]

รีวิวหนัง The Creator (2023) เดอะครีเอเตอร์ ความรู้สึกหลังรับชม

ส่วนตัวผู้เขียนหลังจากดูจบแล้วต้องขอบอกเลยว่า visual ของภาพ ต้องขอบอกว่าสวยงามมาก มีการเอาการสร้างภาพของ A.I. เข้ามาใช้ในฉากและโลเคชันด้วยต้องขอบอกว่าเริ่ด การจัดแสงและเงา สุดๆไปเลย ดูจับต้องได้ ภาพสวยงาม เข้าถึงอารมณ์คนดูได้อย่างลึกซึ้ง ในด้านความเป็นมนุษย์และในด้านของ A.I. ที่ถูกประดิษฐ์จากสมองและสติปัญญารวมถึงความสามารถของมนุษย์ เพื่อเลียนแบบมนุษย์ด้วย สุดจริงๆทั้งฉากแอ็คชันต่อสู้ห้ำระหั่นกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์และซีนอารมณ์ที่ทำให้เราต้องกลับมานั่งตั้งคำถามที่บ้านเลยความถูกต้องคืออะไร ฉากต่อสู้มีบางฉากแอบเหมือน star wars ดูหนัง The Creator (2023) พากย์ไทย

แต่ก็ถือว่าทำออกมาดี เพลิดเพลินกันลืมเวลาใช้ได้ ฉากต่อสู้แอ็คชันอาจจะเวิ่นๆไปหน่อยและรู้สึกว่าหนังดำเนินเนื้อเรื่องช้าไปบ้าง แต่พล็อตเรื่องและบทพูดรวมถึงการแสดงของนักแสดงหลักต้องขอบอกว่าทั้งเท่และคูลมาก ทำให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ของตัวละครในเรื่องได้ไม่ยาก หนังไม่ต้องตีความมาก 

โดยรวมก็สนุกเลยหล่ะค่ะ ออกมาจากโรงยังคิดกับตัวเองอยู่เลยว่า ถ้าโลกนี้ถูกควบคุมด้วย A.I. ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ ทั้งสมรภูมิห้ำห่ำกันเพื่อเอาตัวรอด ขอบอกว่าทุกอย่างในหนังที่ผู้กำกับพยายามดึงออกมาใช้มีเสน่ห์จริงๆ และประทับใจมากๆ

[/section]

[ช่องว่าง]

สรุปรีวิวเนื้อหาภาพยนตร์โดยรวม

ดูหนังเรื่อง The Creator (2023) จริงๆ แล้ว โครงเรื่องสงครามระหว่างมนุษย์กับ AI และโครงเรื่องการผจญภัยลักพาตัวเด็กอาจไม่ใช่โครงเรื่องใหม่ทั้งหมด แต่ต้องยอมรับว่าในฐานะคนไทยที่ได้เห็นฉากและองค์ประกอบที่เป็นมุกตลกของไทยเฮิร์ดที่มีแต่คนไทยเท่านั้นที่เข้าใจในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด คุณยังจะได้เห็นภาพความเจ๋งของประเทศไทยแบบนี้อีกด้วย แค่นี้ก็น่าตื่นเต้นแล้ว ในส่วนของนักแสดงก็เจ๋งกันทุกคน รวมถึง จอห์น เดวิด วอชิงตัน ที่เล่นละครเยอะมาก เจมม่า ชาน ที่หน้าตาดูมีเสน่ห์มากเวลาอยู่หน้ากล้อง ส่วนแมดเดอลีนตัวน้อย โดดเด่นและเล่นบทดราม่าได้ดีและดูมีความหวังมาก

รวมถึงการใช้กล้อง Sony FX3 ซึ่งเป็นกล้อง Cinema Line ระดับเริ่มต้นขนาดเล็กที่มีความยืดหยุ่นในการถ่ายทำ แต่ภาพก็บันทึกในระดับ IMAX ในอัตราส่วน 2.76 : 1 ซึ่งต้องชมว่างานภาพออกมาดีเกินคาด ด้วยคุณภาพเท่านั้น ความลึกโดยรวมของภาพอาจไม่คุ้มค่าว้าว การชมระบบ IMAX และฟังดนตรีประกอบอันทรงพลังของ Hans Zimmer นั้นคุ้มค่า แต่ถ้ามองในระบบปกติก็ไม่น่าเสียดายด้วยซ้ำ

บทภาพยนตร์จัดทำขึ้นเพื่อให้รับชมได้อย่างเพลิดเพลิน เรื่องราวแบ่งออกเป็นการกระทำเล็กๆ บทพยายามแทรกองค์ประกอบของหนังแอ็คชั่น ไซไฟ ผจญภัย ดราม่า และแทรกอารมณ์ขันเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูง่าย ทั้งครอบครัว มีฉากหนึ่งที่เกือบจะเจ็บตับนิดหน่อยแต่ยืมการอ้างอิงมาจากหนังไซไฟเก่าๆค่อนข้างมาก เป็นผลให้โครงเรื่องไม่มีอะไรแตกต่างหรือแยกตัวออกจากสิ่งที่แฟนหนังไซไฟคุ้นเคยอยู่แล้ว

อีกจุดหนึ่งคือเรื่องราวในองก์หลังที่พยายามจะจัดเรื่องราวเพื่อสร้างอารมณ์ความรู้สึกบางอย่าง แต่ก็บอกไปแบบที่พอจะเข้าใจได้ แต่มันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณเชื่อในเหตุผลของตัวละครจริงๆ กลายเป็นหลุมใหญ่ๆ มากมาย ทำให้หนังยังถ่ายทอดหัวใจและจิตวิญญาณไม่ได้ มันเพิ่มปรัชญาอันลึกซึ้งของหนังและตัวละครได้อย่างลงตัว 

รวมถึงเนื้อเรื่องบางประเด็นที่ดูกระชับและตัดตอนเกินไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ยังเป็นหนังไซไฟต้นฉบับที่มีครบทุกอย่าง ฉากทั้งหมดน่าประหลาดใจเกินจินตนาการ และเรื่องราวก็น่าดูเต็มอิ่มทุกอารมณ์ เป็นหนังไซไฟที่ผู้เขียนเชื่อว่าคนไทยจะได้ดูจนจบเครดิตแน่นอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *