รีวิว Love Rosie
รีวิว Love Rosie เรื่องย่อหนัง
เรื่องราวของเด็กหนุ่มชื่ออเล็กซ์กับหญิงสาวโรซี่ ที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เขาสามารถพูดคุยกับเพื่อนสนิทคนนี้ได้แทบทุกเรื่อง แต่ก็จะมีความรู้สึกเล็ก ๆ ที่ก่อเกิดขึ้นมา ซึ่งเขาทั้งสองก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น จึงต่างคนต่างหาคู่ในการไปเดทหรือไปงานพรอมดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน จึงไปหาร้านยาเพื่อจะซื้อยามาทานเฉย ๆ แต่เภสัชกรก็ถามอาการว่ามันเป็นแบบไหน เธอจึงได้บอกไป แต่แล้วเภสัชจึงบอกให้เธอไปตรวจว่าท้องไหม ซึ่งเธอรีบปฏิเสธทันที เพราะเธอได้ทานยาคุมแล้ว แต่สุดท้ายหลังตรวจเสร็จ แปลว่าเธอท้องรีวิวหนังน่าดู
ซึ่งจริง ๆ ก่อนหน้านี้เธอมีเพศสัมพันธ์กับคู่เดตของเธอ แต่แค่ 3 นาที ผู้ชายก็ถึงจุดความสุขโดยไว ทำเอาเธอไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก แถมถุงยางยังหลุดเข้าไปข้างในอีก เอิ่ม ผู้ชายคนนี้ก็ไวเกินเนอะทุกคน
ผ่านไป 5 ปี เพื่อนสนิทของเธอพึ่งได้รู้ข่าวว่าจริง ๆ แล้วเธอมีลูกแล้ว แต่ปิดบังไว้ ทำให้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป รวมทั้งยังขอเป็นพ่อทูนหัวให้แก่เจ้าตัวน้อยอีกด้วย
หลังจากนั้นเขาจึงกลับบอสตัน และได้ไปเจอสาวสวยคนหนึ่ง ทำให้เขาได้เป็นแหนกัน แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนที่เจ้ากี้เจ้าการ อารมณ์หงุดหงิดง่าย ทำให้ชีวิตคู่ของเขาดูไม่มีความสุขนัก แถมแล้วเธอก็ท้อง ทำให้เขารู้สึกดีใจมากที่ได้เป็นพ่อคน แต่กลับกัน เขาพึ่งได้มารับรู้ว่าแฟนเขาท้องกับคนอื่น ที่ไม่ใช่เขา
รวมไปถึงพ่อของโรซี่ก็ยังมาเสียชีวิตอีก ทำให้ซี่เสียใจอย่างมาก และอเล็กซ์ที่ไม่ได้มาเจอกับโรซี่มานาน ก็ได้มางานศพของพ่อเธอด้วย และได้กอดให้กำลังใจกัน เรื่องราวของหนังต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ ต้องไปดูเอง
ความรู้สึก หลังดู
Love Rosie เป็นหนังรอมคอม (โรแมนติกคอเมอดี้) หวานๆ แต่ไม่ถึงกับเลี่ยน ผู้กำกับเล่าเรื่องจากหนังสือต้นฉบับออกมาได้ดี เล่นกับโชคชะตาและการคลาดกันไปมาของตัวละครได้อย่างมีชั้นเชิง โดยมีมุขตลกแทรกอยู่ตามรายทาง ระยะเวลาสิบปีของภาพยนตร์ถูกทำออกมาได้กระชับ เป็น One Day ในพาร์ทที่สว่างกว่า แถมยังมีจุดเด่นคือการให้ความสำคัญในรักครั้งแรกที่ต่อยอดออกมาเป็นรักแท้ แม้จะเพ้อฝันไปบ้างก็ยังดูสนุก
สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือการใช้เพลงเป็นตัวแทนการเปลี่ยนผ่านของเวลา แถมยังแฝงนัยบางอย่างในเนื้อหาได้น่ารักทั้ง Crazy in love และ You (Very Much) ส่วนแก๊กใช้มือถือบ่งบอกยุคสมัยก็ยั่วล้อค่ายดังได้แสบสัน สำหรับจุดอ่อนคือการเดินเรื่องค่อนข้างเป็นไปตามสูตรสำเร็จ แน่นอนว่าตอนจบคาดเดาได้ไม่ยาก ไม่มีฉากหักมุมหรือเซอร์ไพรส์คนดู อีกอย่างที่เสียดายคือการพูดถึงเรื่องความฝันในชีวิต ซึ่งทำออกมาได้ฉาบฉวยเกินไป แต่ดันไปขยี้ประเด็นผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ได้แทน
การแสดง ลิลลี่ คอลลินส์ กับบท โรซี่ ดูสวยมาก ตัวละครของเธอมีเสน่ห์ แถมยังมีพัฒนาการทั้งด้านอารมณ์ภายในและบุคลิกภายนอก เธอเหมาะกับหนังประเภทนี้มากกว่าหนังแอ็คชั่นแฟนตาซีแบบ The Mortal Instruments ด้าน แซม คลาฟลิน กับการรับบทนำเป็นครั้งแรกถือว่าสอบผ่าน เขาไม่ได้หล่อหรือดูดีที่สุดในเรื่อง แต่ก็มีดีพอที่จะดึงดูดผู้ชมสาวๆให้หลงรักในตัว อเล็กซ์ ที่สำคัญคือเคมีของทั้งสองเข้ากันแบบลงตัว
ด้วยความหลากหลายครบรสทั้ง ตลก ดราม่า และโรแมนซ์ บวกกับพลังอันยอดเยี่ยมของนักแสดง ทำให้หนังเรื่องนี้ น่ารัก อบอุ่น ซาบซึ้ง สัมผัสใจคนดูได้ไม่ยาก และถ้าปีที่แล้วมี About time เป็นหนังรักแห่งปี ปีนี้ Love Rosie ก็กำลังเดินทางไปสู่จุดนั้น
เราชอบเพลงประกอบในหนัง ชอบการติดต่อสื่อสารของพระนางที่อยู่คนละทวีปผ่านสื่อต่างๆ ตามยุคสมัย ตั้งแต่โปรแกรม msn จนมาถึง iMessege (คนที่เกิดยุค ’90 เป็นต้นไป น่าจะอิน) ชอบ Lily Collins กับ Sam Claflin ที่น่ารักมากๆ เคมีดูเข้ากัน และที่สุดของที่สุด คือชอบที่มันค่อนข้างสะท้อนชีวิตจริงของเรา ทั้งเรื่องความรักและแผนการชีวิตในอนาคต
หนังโรแมนติกคอเมดี้ ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง “Where Rainbows End” (2004) ของ Cecelia Ahern (ผู้เขียน P.S. I Love You) Love, Rosie เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาวบริติช Rosie (Lily Collins จาก Abduction, Mirror Mirror, The Mortal Instruments) กับ Alex (Sam Claflin จาก Pirates of the Caribbean และ The Hunger Games) ทั้งสองเป็นเพื่อนบ้าน… เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เด็กๆ และฝันจะไปเรียนต่อที่ Boston ด้วยกัน แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่เป็นไปตามแผน เพราะ Rosie ท้องกับ Greg (Christian Cooke จาก Doctor Who และ Romeo & Juliet) โดยไม่ได้ตั้งใจ Alex ก็ไปมีแฟนเป็นผู้หญิงสวยเพอร์เฟ็กต์
ความรักของ ROSIE กับ ALEX ไม่เคยตรงกันเลยสักครั้ง ทั้งๆ ที่ใจของทั้งคู่ตรงกันตลอดมา
พล็อตของ Love, Rosie ก็ไม่ต่างอะไรมากจากหนังแอบรักเพื่อนทั่วไป ถึงแม้หนังจะมีช่องโหว่ไปบ้าง แต่ก็นิดเดียว และเราก็ไม่ได้สนใจมากด้วย (เพราะมัวแต่เช็ดน้ำตาอยู่ และมันก็ไม่ได้ขัดหูขัดตามากแต่อย่างใด) ถ้าถามว่าหนังดีมั้ย เราว่าสอบผ่านแต่ไม่ดีมากแบบมาสเตอร์พีซ
เราชอบเพลงประกอบในหนัง ชอบการติดต่อสื่อสารของพระนางที่อยู่คนละทวีปผ่านสื่อต่างๆ ตามยุคสมัย ตั้งแต่โปรแกรม msn จนมาถึง iMessege (คนที่เกิดยุค ’90 เป็นต้นไป น่าจะอิน) ชอบ Lily Collins กับ Sam Claflin ที่น่ารักมากๆ เคมีดูเข้ากัน และที่สุดของที่สุด คือชอบที่มันค่อนข้างสะท้อนชีวิตจริงของเรา ทั้งเรื่องความรักและแผนการชีวิตในอนาคต
Love, Rosie โดนชีวิตตัวเองเต็มๆ เราอินมาก ร้องไห้ไปหลายช็อตเลย ร้องแบบหนักมาก ออกจากโรงมาแล้วยังแอบน้ำตาคลออยู่เลย คือดูแล้ว มันเหมือนเห็นปัจจุบันและอนาคตของตัวเองอยู่ในตัวของ Rosie กับ Alex ซึ่งไม่ใช่แค่ประเด็นแอบรักเพื่อนรักเท่านั้น แต่ยังอินกับเรื่องราวของชีวิตที่กลัวว่าจะประสบกับตัวเองในอนาคตด้วยเหมือนกัน
สิ่งที่ประทับใจ
1. ในเรื่องก็มีคนที่ไม่ได้เข้าเรียนต่อในชั้นมหาวิทยาลัย มันมีสาเหตุที่เลวร้ายมาก แต่ก็ผ่านมันไปได้ด้วยดี ด้วยความเมตตา ของตัวละคร
2. ที่บอกว่าเนื้อเรื่อง หรือหนังเรื่องนี้เนี่ยต้องใช้ใจดู เพราะว่ามันจะมีเวลาที่ไม่ตรงกันของตัวละคร ความรักจึงต้องพลัดพรากกัน หลายต่อหลายครั้ง แต่ทั้งสองคนตอนจบจะได้ลงเอยกัน ได้รักกันอย่างที่หวังไว้ไหม ติดตาม ๆ
3. ความสัมพันธ์ ความเป็นเพื่อนของทั้งสองคนดีมาก เป็นเพื่อนต่างเพศที่ไม่มีการล่วงเกินกัน จริงใจต่อกันและกัน อย่างฉากที่ โรเซ่ เลือกชุดไปงาน prom ได้ถาม วิลเลียม ประมาณว่าฉันควรใส่ปราให้นมชิด ๆ ตั้ง ๆ หรือว่าไม่ใส่ให้ดูเป็นธรรมชาติดี วิลเลียม ก็ตอบกลับว่า เธอจะไปเต้นรำ หรือว่าไปทำอย่างอื่นหละ4. แสดงความเพื่อนรัก รักเพื่อนได้สุด ๆ เหมือนว่าทั้งสองคนก็คือรู้ใจตัวเองอยู่ลึก ๆ แต่ได้กล้าบอกกัน กลัวจะเสียกันไป แต่ละครก็คบคนนั้นทีคนนี้ที ทำท่าว่าไม่ได้สนใจกัน แต่จริง ๆ แช้วก็ข่มความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ไม่ได้หรอก
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “Love,Rosie (เพื่อนรักกั๊กเป็นแฟน)”
ประเภท : โรแมนติก คอมเมดี้
ผู้กำกับ : คริสเตียน ดิทเทอร์
นักแสดงนำ : ลิลี คอลลินส์,แซม คลาฟริน,ซูกี้ วอเตอร์เฮาส์,คริสเตียน คุ๊ก
ความยาว : 1 ชั่วโมง 42 นาที
กำหนดฉาย : 6 พฤศจิกายน 2557