รีวิว Ammonite
รีวิว Ammonite เรื่องราว
สิ่งหนึ่งที่ต้องบันทึกไว้ในปี 2020 นอกจากการที่หนังฟอร์มยักษ์ต่างต้องเลื่อนฉายเพื่อหนีวิกฤติ COVID – 19 แล้วคงเป็นปรากฎการณ์ที่หนังนอกกระแส ได้รับโอกาสให้ยืนโรงฉายได้ค่อนข้างนานกว่าปกติ ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ ผู้คนมีโอกาสได้ตามเก็บหนังนอกกระแสกันได้นานขึ้น และสะดวกมากขึ้นโดยเฉพาะการมีอยู่ของโรงหนังเฮาส์ สามย่านที่ยืนหนึ่งในด้านหนังนอกกระแสอย่างแท้จริง และเพื่อส่งท้ายปี 2020 เฮาส์ก็จะมีหนังอินดี้น้ำดีหวานขมมาประทับรอยก่อนก้าวสู่ปี 2021 อย่าง Ammonite ที่เรากำลังจะกล่าวถึงดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
ในโลกวันวาน ผู้หญิงมักไม่ได้รับความสำคัญ จะเก่งจะดีงามแค่ไหนก็ไม่ได้รับการเชิดชู หรือยอมรับจากสังคม โลกวันเก่ายังคงมองเห็นผู้ชายเป็นใหญ่ ที่มีอำนาจควบคุมและครอบครองเพศหญิงได้ทุกด้าน การจะยืดอกมาเผชิญหน้าท้าทายในยุคสมัย จึงจำต้องใช้ความกล้าอย่างมาก ‘ Ammonite ’ หนังที่สร้างมาจากชีวิตจริงของ แมรี่ แอนนิ่ง นักบรรพชีวินชาวอังกฤษในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และ ชาร์ล็อตต์ เมอร์ชิสัน หญิงสาวคนสนิท บอกเล่าสิ่งเหล่านั้นให้เราได้รับชมกัน
ผลงานจาก ฟรานซิส ลี ผู้สร้าง ‘ God’s Own Country ’ หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย เคต วินสเล็ต และ เซอร์ซา โรแนน สองดารานำที่ทั้งมีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในใจคนทั่วโลกและสำคัญที่สุดคือ …ในใจเรารีวิวหนังน่าดู
เรื่องย่อหนัง ‘ Ammonite ’
เรื่องราวชีวิตและความสัมพันธ์ของพวกเธอที่ควรค่าแก่การหยิบมาเล่าให้คนยุคปัจจุบันได้รับรู้ หนังได้รับเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีล่าสุด อีกทั้งยังกวาดคำชมอย่างล้นหลามจากนักวิจารณ์ กลายเป็นหนึ่งในหนังเยี่ยมแห่งปี 2020
หนังพาเราย้อนกลับไปยังช่วงขวบปี 1840s เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอังกฤษ ในเมืองไลม์รีจิสที่มีหญิงผู้หนึ่งนามว่า Mary Anning แมรี่ แอนนิ่ง ( Kate Winslet จากหนังเรื่อง ‘Titanic’, ‘Blackbird’ และ ‘The Dressmaker ’) ผู้มีอาชีพเป็นนักบรรพชีวิน แต่ละวัน เธอก็มักจะเดินหาเหล่าซากฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์อย่าง แอมโมไนต์ เธอเป็นผู้ค้นพบซากฟอสซิลที่มีชื่อเสียง ถูกซื้อไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่ไม่เคยได้เครดิตอย่างสมบูรณ์ในฐานะผู้ค้นพบ
จนวันหนึ่งเธอก็จำต้องรับข้อเสนอจาก รอดเดอริก เมอร์ชิสัน ( เจมส์ แม็กอาร์เดิล ) เศรษฐีจากเมืองหลวง ที่ขอจ้างเธอดูแลชาร์ลอต เมอร์ชิสัน( เซียร์ชา โรแนน ) ภรรยาที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ของเขาเป็นเวลา 1 เดือน แต่แล้วจากหน้าที่ที่ได้รับจ้างความสัมพันธ์ของเธอกับชาร์ลอตก็ยิ่งแนบแน่นและร้อนแรงด้วยเสน่หามากขึ้นทุกวันแต่โลกความจริงชาร์ลอตเป็นเมียคนอื่นและสังคมก็ยังไม่พร้อมรับความสัมพันธ์ของผู้หญิงด้วยกันแล้วความรู้สึกของทั้งคู่จะจับต้องได้หรือเหลือเพียงเศษซากที่ติดตามหินเหมือนแอมโมไนต์กันแน่
การที่ Ammonite ถ่ายทอดเรื่องราวรักลับ ๆ ของคู่รักหญิงออกมาได้อย่างละเมียดละไม ปนร้อนแรงแถมด้วย ความร้าวราน ลึกสุดใจได้ขนาดนี้เหตุผลหลักก็มาจากงานกำกับ และบทของ ฟรานซิส ลี ที่เคยถ่ายความรักของชายคนงานเลี้ยงแกะชาวโรมาเนียกับหนุ่มชาวไร่อังกฤษเสเพลออกมาได้อย่างวาบหวามร้อนแรงและกระทบจิตใจจาก God’s Own Country ( 2017 )
ใน Ammonite ลีเลือกหยิบชีวิต ของนักบรรพชีวินวิทยาอย่าง แมรี่ แอนนิ่งมาเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดไม่เพียงแต่รสนิยมทางเพศที่ต้องถูกกดเก็บไว้แต่มันยังทำให้เห็นว่าแห่งที่ของผู้หญิงในโลกวิทยาการนั้นถูกประเมินค่าอย่างต้อยต่ำเพียงใด เพราะแค่ฉากเปิดเรื่องที่หนังไปเริ่มที่ซากฟอสซิลติดชื่อของแมรี่ แอนนิ่งก่อนจะถูกแปะทับด้วยชื่อบุรุษ แล้วตัดไปที่ภาพผู้หญิงคนหนึ่งกำลังขัดพื้นพิพิธภัณฑ์ อย่างเอาเป็นเอาตายก็แทบไม่ต้องมีคำอธิบายเลยว่าสตรีในยุคสมัยนั้นถูกประเมินค่าเยี่ยงไร
ซึ่งการเปิดเรื่องดังกล่าวแม้จะดูผิวเผิน แต่ต้องยอมรับว่ามันกระทบความรู้สึกของเราไปแล้วจนฉากต่อ ๆ มาแม้แค่แมรี่ แอนนิงไปขุดหินหาแอมโมไนต์เราก็ยังเจ็บปวดไปกับเธอที่ต้องทำงานหลังขดหลังแข็ง แต่แทบไม่มีใครเห็นค่าแถมต้องไปหาแอมโมไนต์ หรือฟอสซิลที่แทรกตัวหลบตามหินโสโครกต่าง ๆ ต้องเอามาล้างมาเช็ดเพื่อผลิตเป็นของที่ระลึกขายนักท่องเที่ยวประหนึ่งแม่ค้าตามชายหาดซึ่งไม่ได้ให้ภาพของนักบรรพชีวินวิทยาที่ควรได้รับความยกย่อง
และโดยปริยายการเข้ามาของ ผัวเมียเมอร์ชิสันก็ยิ่งตอกย้ำว่า “ คนเราไม่เท่ากัน ” ให้ยิ่งชัดเข้าไปอีกกล่าวคือตัวรอดเดอริกแม้จะแสดงท่าทีชื่นชมตัวของแมรีในแง่ผลงานอันโดดเด่นแต่สิ่งที่เขาต้องการให้เธอทำคือขอให้เธอเป็นพี่เลี้ยงเพื่อดูแลชาร์ล็อตเมียร่างกายอ่อนแอของเขาที่มีภาวะซึมเศร้าเป็นของแถม จากต้องดูแลอาการป่วยของเมียชาวบ้านอย่างจำยอมแต่เมื่อความใกล้ชิดและความปรารถนาของชาร์ล็อตทอดสะพานเชื้อเชิญ ความปรารถนาและความสุขประหนึ่งแอมโมไนต์ที่ว่าหายากเธอก็กลับพบมันได้ง่ายเพียงแต่เธอก็ยังไม่ได้เป๋็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ใน “หินก้อนนั้น” อยู่ดี
ซึ่งมันทำให้บรรยากาศในภาพรวมของ Ammonite เต็มไปด้วยอารมณ์ที่รุนแรงภายใต้การดำเนินเรื่องอันเรียบนิ่งเพราะขณะที่งานกำกับของลี และการแสดงของทั้งเคต วินสเลตและเซียร์ชา โรแนนแทบจะไม่ได้เร้าอารมณ์อะไร แต่ด้วยประเด็นของหนังที่พาคนดูไปสำรวจโลกอันอยุติธรรมจากอคติทางเพศที่มาผสมผสานกับเรื่องราวรักต้องห้ามก็ยากล่ะที่เราจะมองภาพบนจอด้วยความนิ่งสงบหรือสบายใจได้
รีวิวหนัง ‘แอมโมไนต์’
เรื่องราวของหนังที่เล่าจากเรื่องจริงของแมรี่อยู่ในช่วงที่ผู้หญิงถูกกดขี่ไปเสียทุกอย่าง แม้เธอจะมีชื่อเสียงเลื่องลือ ในการค้นพบซากฟอสซิลของกิ้งก่าทะเล แต่เธอกลับทำได้เพียงดำรงชีวิตไปวันๆ ด้วยธุรกิจเก็บหอยแอมโมไนต์ ไม่ก็เปลือกหอยมาติดประดับกระจกเพื่อขายนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนร้านขายฟอสซิลของเธอ
เมืองเล็กๆ ชายหาด คือแหล่งพักพิงของนักบรรพชีวินวิทยาอย่างเธอ แมรี่ อาศัยอยู่กับมารดาที่มีอาการป่วย แม้จะเบื่อแสน เบื่อแค่ไหน ก็ยังต้องทนทำสิ่งเดิม ซ้ำไปวนไป ทุกวัน เธอต้องออกไปเดินท่องชายหาด ก้มมองเห็นเศษหิน ไม่ก็เงยมองเผื่อจะเจอหินก้อนใดสะดุดตาที่น่าจะมีซากฟอสซิลอยู่ในนั้น เมื่อเจอแล้วก็ต้องกระเทาะและล้างจนเหมาะจะวาง และ ถ้าเจอกิ้งก่าทะเล นั่นจะกลายเป็นครั้งที่สร้างรายได้ใหญ่ นำไปขายให้ใครสักคนที่เป็นตัวแทนของพิพิธภัณฑ์ รายได้นั้นพอจะอยู่ไปได้เกือบปี จากการได้รู้จัก คุณเมอร์ชิสันผู้แสดงตัวว่าคลั่งไคล้ อยากจะให้เธอสอนชีวิตการเป็นบรรพชีวินวิทยาเพียง 1 วันแลกกับเงินจำนวนหนึ่ง ทำให้เธอได้กลายเป็นผู้ดูแลจำเป็นของคุณนายเมอร์ชิสัน เธอเองก็เป็นผู้หญิงอีกคนที่ต้องตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของผู้ชายที่ดูไม่ได้เห็นคุณค่าเธอเลยสักนิด เมื่อเห็นเธอเหม่อลอย การพามาเที่ยวทะเลของเขาทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ทำหน้าที่ของสามีที่ดีแล้วแต่หมดปัญญาจะทำให้ดีไปกว่านั้น สุดท้าย จึงเลือกจะให้ผู้หญิงดูแลกันเอง
ในวันที่เธอป่วยหนัก หมอเคราครึ้มที่มาดูอาการก็ยังพูดประโยคนี้กับเธอ “ ผู้หญิงต้องดูแลกันเอง ” สะท้อนหลายสิ่งในยุคนั้นได้พอสมควร
จากวันเริ่มต้น ที่เธอดูไม่เต็มใจ และ ทำไปเพียงเพราะเงินค่าจ้าง ขนาดร้านของตัวเองยังไม่อยากจะเปิด ต้องมาเป็นพี่เลี้ยงดูแลหญิงสาว ยิ่งไม่ใช่งานที่เธออยากจะทำเข้าไปใหญ่ แต่แล้ววันหนึ่งมันก็กลับกลายแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ความสัมพันธ์ของแมรี่ และ ชาร์ล็อต กลับเต็มไปด้วยสเน่หา
จากวันที่แมรี่เอาแต่ปิดตัวเอง ไม่ยอมรับผู้ใด จนวันนี้ ชาร์ล็อตคือคนที่เปิดล็อกนั้น และเดินเข้ามา แต่ความสัมพันธ์แบบหญิง – หญิง ในสมัยนั้นก็ไม่ได้เป็นที่ยอมรับเช่นกัน แม้แต่แม่ของเธอก็ดูจะไม่ชอบใจ เธอจึงใช้ชีวิตอยู่กับความสุขท่ามกลางความกดดัน
“ ฉันดีใจที่หินของฉัน มีค่าให้คุณกระเทาะ ”
รู้สึกได้ว่าโดนใจกับประโยคนี้เป็นที่สุด เหมือนเป็นถ้อยคำที่บ่งบอกความรู้สึกได้ดี ทั้งมันยังเป็นสิ่งที่แมรี่หลงใหลชื่นชอบอีกด้วย
เรื่องราวอาจดำเนินไปอย่างเรียบง่าย หลายครั้งก็เหมือนคนที่ปกปิดความรู้สึกตัวเอง เปิดเผยเพียงสิ่งที่อยากให้รู้ ทำให้มีหลายสิ่งที่ผู้ชมต้องทำความเข้าใจเอาเองบ้างไรบ้าง ฉากความสัมพันธ์ของ แมรี่ กับ ชาร์ล็อต ก็เริ่มจะหวือหวาเต็มไปด้วยแรงแห่งไฟปรารถนามากขึ้นทุกที
แมรี่ ผู้กระเทาะหิน เพื่อค้นพบซากฟอสซิล ของสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ซ่อนลึกอยู่ข้างใน ขณะเดียวกันชาร์ล็อต ก็คือหญิงสาวที่กระเทาะเปลือกหัวใจของแมรี่ที่ปิดตายซ่อนตัวไม่ยอมพบใคร คงคล้ายกับแอมโมไนต์ หอยดึกดำบรรพ์ที่รอการค้นพบ หนังมีความเป็นส่วนตัวมากพอควร เหมือนรอคอยให้ใครสักคนที่เข้าใจมาเปิดประสบการณ์ไปกับมัน หนังปิดท้ายด้วยฉากที่ให้ความรู้สึกอึ้งอยู่พอประมาณ
ภาพยนตร์เรื่อง : Ammonite / แอมโมไนต์
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Francis Lee
ผู้เขียนบท: Francis Lee
นักแสดง : Kate Winslet, Saoirse Ronan, Gemma Jones, Fiona Shaw, James McArdle
ดนตรีประกอบ: Volker Bertelmann, Dustin O’Halloran
ความยาว: 120 นาที
ปี: 2020
แนว/ประเภท: Biography, Drama, Romance
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
ประเทศ: อังกฤษ
เรท: ไทย/-, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 24 ธันวาคม 2020
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: See-Saw Films, British Film Institute ( BFI ), BBC Films