มาในวันนี้ผู้เขียนจึงอยากพาทุกคนไปแหวกว่ายฝ่าความเหงาไปสู่ก้นทะเลลึกแห่งจิตใจและอารมณ์ต่าง ๆ ที่ไม่หยุดสาดเข้าใส่เรา กับภาพยนตร์ที่ขอเอาขึ้นหิ้งบูชาอย่าง The Whale (เหงา เท่า วาฬ) หนังที่เข้มข้นทุกอารมณ์เกินจะบรรยาย แต่ในรีวิว หนังใหม่แนะนำ วันนี้เราจะมาบรรยายให้ทุกคนได้ฟัง ก่อนไปสัมผัสประสบการณ์ที่ยากจะลืมด้วยตัวเอง
เชิญติดตามหนังดังช่องทางการรับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์
ภาพยนตร์แห่งศรัทธาและความเชื่อมั่น

รีวิวหนัง The Whale เรื่องย่อ
The Whale เหงา เท่า วาฬ เรื่องย่อ เรื่องราวของครูภาษาอังกฤษ ชาร์ลี ที่ป่วยเป็นโรคอ้วนเข้าขั้นรุนแรง เป็นผลมาจากความเสียใจที่ถูกแฟนหนุ่มของเขาทอดทิ้ง ซึ่งนอกจากชาร์ลีจะต้องเจอกับปัญหาสุขภาพสุดวิกฤตแล้ว ในตอนนี้เขาก็กำลังกลับไปเผชิญหน้ากับความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นกับลูกสาววัย 17 ปี และพยายามจะสานรอยร้าวนั้นให้หายไปอีกด้วย ก่อนที่จะสายเกินไป
เบรนแดน เฟรเซอร์ ในบทบาทของ ชาร์ลี ผู้ซึ่งไม่เคยได้ทำหน้าที่พ่อมาก่อนเลย ซึ่งเบรนแดนสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้บีบคั้นมาก ทั้งเศร้า เจ็บปวด จนทำให้เรารู้สึกร่วมไปกับเขาสุด ๆ ตั้งแต่ชมตัวอย่างภาพยนตร์ ซึ่งความเห็นใน Rotten Tomatoes ส่วนใหญ่ก็ดูจะคิดเหมือนกัน
The Whale ค่อนข้างเป็นหนังที่เหงามาตั้งแต่ชื่อ ผสมกับจังหวะดำเนินเรื่องที่เอื่อย ๆ เหมือนจังหวะน้ำกระเพื่อมไปกระทบกับเรือ ผู้ชมส่วนใหญ่มองว่าบทภาพยนตร์ หากไปต่อได้อีกนิดก็น่าจะทำให้ตัวละครชาร์ลีดูสมเหตุสมผลมากกว่านี้ ตัดสินใจได้ดีกว่านี้ ในแบบที่ (เรา ๆ มองว่า) ควรจะเป็น

หากใครอยากสัมผัสความแตกสลาย รวดร้าว ที่มนุษย์คนหนึ่งจะพึงมีได้ ก็อยากชวนให้ทุกคนไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง เพราะหนังเรื่องนี้พีคจัด ชนิดที่ว่าหลังจาก The Whale ในงานเวิลด์พรีเมียร์ ครั้งที่ 79 เทศกาลหนังเวนิสฉายจบลง ผู้ชมต่างก็ยืนปรบมือให้กับ เบรนแดน เฟรเซอร์ และภาพยนตร์เรื่องนี้นานถึง 6 นาทีเลยทีเดียว เหงาเท่าวาฬ สปอย
นอกจากเบรนแดนแล้ว เซดี้ ซิงก์ , ฮง เชา และนักแสดงมากฝีมือท่านอื่น ๆ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนความแตกร้าวนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก
แม้ว่านักวิจารณ์ใน Rotten Tomatoes จะตัดคะแนนของภาพยนตร์เรื่องนี้ไปมาก โดยได้คะแนนเพียง 65 เปอร์เซ็นต์ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเห็นจากด้านผู้ชม เพราะภาพยนตร์ The Whale เหงา เท่า วาฬ ได้รับคะแนนจากผู้ชมสูงถึง 91 เปอร์เซ็นต์เลย
หนังที่ว่าด้วยความเหงาที่ใหญ่เท่าวาฬ
จากการสูญเสียคนรักอย่างกระทันหันสร้างบาดแผลและผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจจนเป็นเหตุให้เขารับประทานมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้องใช้ชีวิตที่เหลือโดยไม่มีคนรักที่เลือกจบชีวิตเพราะความกดดันจากแนวทางศาสนาและสังคมรอบตัวหลังจากที่เปิดตัวว่าเป็นเกย์
ทำให้ชาร์ลีเก็บตัวเองอยู่ในบ้านอันอึมครึมมืดเทาและแทบไม่เปิดเผยตัวตนให้ใครเห็นแม้แต่นักเรียนที่ลงคอร์สทางออนไลน์ ก็ไม่เคยรู้ว่าเสียงที่กำลังชี้แนะแนวทางงานเขียนของพวกเขาอยู่นี้คือใครและมีหน้าตาอย่างไร เหงาเท่าวาฬ pantip
จนเมื่ออาการเริ่มทรุดตัวลงจนเข้าขั้นวิกฤต ชาร์ลีก็ไม่ยอมให้ใครช่วยเหลือหรือพาไปโรงพยาบาล ไม่รับการรักษาใดๆจากผู้เชี่ยวชาญ แต่เขาเลือกที่จะยกหูโทรศัพท์หาลูกสาวคนเดียวที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง
เป็นการพยายามครั้งสุดท้ายที่จะเชื่อมต่อกับเธอ โดยเหตุการณ์ของเรื่องเป็นช่วงเวลา 5 วันที่เหลืออยู่ของชาร์ลี ที่โน้มน้าวให้ เอลลี่ เห็นคุณค่าและความพิเศษที่เป็นคุณสมบัติที่เธอมีอยู่แล้วในตัว รวมถึงการเอาชนะโรคอ้วนที่กัดกินจิตใจและร่างกายเพื่อยืนด้วยขาของตัวเองอีกครั้ง

ถึงแม้จะมีซีนหนักหน่วงและตึงเครียดตลอดทั้งเรื่อง แต่เชื่อว่าถ้าผู้ชมติดตามดูจนถึงซีนสุดท้ายคุณจะได้คำตอบบางอย่างให้กับชีวิตหรือสถานการณ์ที่กำลังเข้ามาท้าทายอยู่
เพราะทุกตัวละครเมื่อมาถึงฉากจบต่างได้รับทางสว่างและปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการที่ถูกครอบไว้ทั้งจากที่ตัวเองสร้างขึ้นหรือมาจากเหตุการณ์ที่คาดเดาและควบคุมไม่ได้ทำให้ชีวิตต้องมาอยู่ในจุดที่ยากลำบาก
แต่เมื่อวันนั้นมาถึงและความเชื่อมั่นในตัวมนุษย์ที่ยังไม่สลายไป จะนำทางสว่างมาส่องแสงให้กับช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดแก่เรา
เพียงลุกขึ้นรับช่วงเวลานั้นโดยมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มหัวใจ ว่ามนุษย์นั้นน่าทึ่งและไม่สิ้นความห่วงใยให้แก่กัน ที่สุดท้ายแล้วผู้ที่จะปลดปล่อยให้หัวใจได้เป็นเสรีอีกครั้งจากการถูกจองจำก็คือมนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ นั้นเอง
เนื้อหาแสนเรียบง่าย
ทั้งประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวของ เฟรเซอร์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาต้องรับมือการสูญเสีย หย่าร้าง รวมถึงการออกมาเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวในเรื่องการถูกคุกคามทางเพศ
เป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม ส่งให้การแสดงของเขาสามารถสื่อชีวิตที่ตกต่ำ หดหู่ ได้อย่างสมจริงและกินใจ ภาพปรารถนาความสุขสุดท้ายที่ประทับอยู่ในใจปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังจากได้ฟังประโยคที่ไขกุญแจที่ล็อกอยู่ให้กับเขาจบลง เหงา เท่า วาฬ พากย์ไทย
ด้วยภาษาการเล่าเรื่องของผู้กำกับ การันตีได้จากภาพยนตร์เรื่อง Mother! (2017) Black Swan (2010) The Wrestler (2008) และ Pi (1998) ที่ร้อยเรื่องราวได้อย่างลื่นไหล
แม้ฉากเกือบทั้งหมดจะเกิดขึ้นในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ ขนาดสองห้องนอน แต่ด้วยไดอะล็อกและการแสดงสามารถตรึงให้คุณอยู่กับเรื่องราว
ประกอบการการเลือกใช้ดนตรีประกอบที่เสริมอารมณ์ให้ยิ่งเข้มข้นชวนติดตาม จึงไม่แปลกใจเลยที่เรื่องนี้จะมีชื่อเข้าชิงในเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ ทั่วโลก
และทำให้ชื่อของ เบรนแดน เฟรเซอร์ ในวัย 54 ปี กลับมาโลดแล่นให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงอีกครั้งได้ไม่ยาก เขาได้กล่าวขอบคุณ อโรนอฟสกี ผู้กำกับของเรื่องที่ให้เลือกให้เขารับบทนี้และดึงเอาความสามารถของเขาออกมาให้ผู้ชมทุกคนได้รับชมบนโลกภาพยนตร์อีกครั้ง

ในครั้งนี้ เฟรเซอร์ รับบทหนักทั้งการต้องเพิ่มน้ำหนักตัวเองและการเทคนิค prosthetics เพื่อให้สมบทบาทชายร่างใหญ่ที่หนักกว่า 600 ปอนด์
โดยก่อนเข้าฉากต้องใช้เวลาเตรียมตัวรวมแล้วเกือบสี่ชั่วโมง ทั้งนี้เขายังทำงานร่วมกับครูสอนด้านการเคลื่อนไหวเป็นเวลาหลายเดือนและรับคำแนะนำจาก Obesity Action Coalition
เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนรับบทชาร์ลีและทำให้การแสดงออกมาดีที่สุด แต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเมื่อมีชื่อเข้าชิงออสการ์ในสาขานักแสดงยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรก ด้วยการแสดงที่นักวิจารณ์หลายเสียงยกย่องให้เป็นงานที่ดีที่สุดของเขา
เปิดแง่มุมของโรคอ้วนที่คาดไม่ถึง
พอดูเรื่องนี้จบเราได้แต่คิดกับตัวเองว่า อยากโอบกอดและให้กำลังใจคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาโรคอ้วนจริง ๆ ก่อนหน้านี้ด้วยความคิดน้อยหรือความไม่รู้
เราเองเคยคิดว่าโรคนี้เกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีของคน ๆ นั้น แต่หนังเรื่อง เหงา เท่า วาฬ กลับเผยอีกแง่มุมของปัญหานี้ที่มาจากสุขภาพจิตใจภายใน
ถือเป็นการเปิดประตูอีกบานให้คนดูได้อย่างมากเลยค่ะ เป็นอะไรที่น่าประทับใจจริง ๆ และยังทำให้สังคมเข้าใจปัญหาของผู้ที่เผชิญกับปัญหาโรคอ้วนมากขึ้น อย่างที่หนังเรื่องไหนบนโลกไม่เคยตีแผ่มาก่อน

ตั้งแต่วันที่ฉายรอบเวิลด์พรีเมียร์ที่งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิซเมื่อเดือนกันยายน 2022 ก็ได้รับเสียงตอบรับที่น่าตื้นตันใจ
เพราะหลังจากฉายจบผู้ชมยืนปรบมือ (standing ovation) ยาวนานกว่า 6 นาทีโดยมี ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) หรือ เดอะร็อก (The Rock)
ที่เคยร่วมงานในภาพยนตร์ ‘The Mummy Returns’ ทวีตแสดงความยินดี อีกทั้งยังมีหลายๆ โมเมนต์ที่คนบันเทิงฮอลลีวูด ออกมากล่าวชื่นชมกับความสำเร็จของเขาในครั้งนี้ทำให้รู้ว่าผู้ชายที่ชื่อ เบรนแดน เฟรเซอร์ เป็นที่รักทั้งในจอและชีวิตจริง
รีวิวหนัง The Whale บทสรุป
สำหรับนักแสดงคนอื่นในเรื่องทั้ง เซดี ซิงก์ และ ฮง เชา ก็ยิ่งช่วยทำให้เรื่องราวสมจริงและบีบคั้นอารมณ์ ต้องยกเครดิตให้กับฝ่ายแคสติ้งภาพยนตร์เรื่องนี้ที่จับนักแสดงมาถ่ายทอดได้อย่างสมบทบาท กวาดเสียงชื่นชมและกล่องรางวัลติดมือกลับบ้านในหลายเวที
ทั้งนี้ในงานประกาศรางวัล Critics’ Choice Awards เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา เฟรเซอร์ได้ขึ้นรับรางวัลในสาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม จบสปีชด้วยประโยคที่กินใจซึ่งเป็นหัวใจของภาพยนตร์ เหงา เท่า วาฬ ที่ว่า
“ไม่ว่าใครก็ตามที่ตกอยู่ในสภาวะที่ต้องต่อสู้กับโรคอ้วนแบบ ชาร์ลี ในภาพยนตร์เรื่องนี้ หรือกำลังอยู่ในช่วงที่มืดมิดที่สุดของห้วงมหาสมุทรใดก็ตาม ผู้เขียนอยากให้คุณรู้ไว้ว่า ถ้าคุณรวบรวมพลังแล้วลุกขึ้นยืนเพื่อมองหาแสงที่ปลายอุโมงค์ส่องชี้ทางสว่าง เชื่อเถอะว่าสิ่งดีๆ กำลังจะเกิดขึ้น”

สุดท้ายนี้หากใครที่ว่างจากสิ่งที่ทำอยู่ ME อยากแนะนำให้ลองเปิดใจมาดูเรื่องนี้กันสักครั้งจริง ๆ ค่ะ ไม่ว่าหลังดูจบคุณจะชอบหรือไม่
แต่เราเชื่อว่าคุณจะได้บ้างอย่างติดกลับไปด้วยไม่มากก็น้อย ไม่ว่าคุณจะเป็นวาฬขี้เหงาที่กำลังต่อสู้กับคลื่นลูกไหนอยู่ ME ก็ขอให้ฝ่าฟันไปได้จนเจอความสุขสงบที่มองหานะคะ แล้วพบกันใหม่ในหนังเรื่องถัดไปนะคะ
ความรู้สึกหลังรับชม
บอกเลยว่าเป็นหนังดราม่าเนื้อหาที่เข้มข้นมากค่ะ และยังบีบขั้นอารมณ์ของคนดูได้อย่างสุดๆอีกด้วย อาจจะเป็นเพราะตัวหนังนั้นจะเป็นแนวดราม่าหนักๆเลย
แถมเนื้อเรื่องก็ดาร์กอีกด้วยโดยตัวหนังได้พูดถึงหลายเรื่องอยู่ ไม่ว่าจะเป็นด้านของศาสนา , ความรักข้ามเพศ, สัตว์ หรือ บทความต่างๆ และปิดท้ายด้วย ความรักอันบริสุทธิ์
ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก แต่ทั้งหมดนั้นก็เต็มไปด้วยความเหงาสุดจับใจเช่นกันค่ะ เอาเป็นว่าแอดนั่งดูอยู่ดีๆน้ำตาก็ไหลออกมาเองเลยล่ะ

ส่วนตัวชอบในสิ่งที่ตัวหนังนั้นสื่อออกมามากเลย กับ ความรักอันบริสุทธิ์ของคนเป็นพ่อ ที่ต่อให้ลูกนั้นจะทำตัวแย่ขนาดไหนแต่เขาก็เป็นลูก
ซึ่งตรงนี้นั้นตัวหนังสื่อสารออกมาได้ดีมากเลยประทับใจ นอกจากนั้นเราจะได้พบกับความแสดงขั้นสุดยอดของ เบรนแดน เฟรเซอร์ อีกด้วย
ที่เขานั้นต้องเพิ่มน้ำหนักตัวเองเพื่อมารับบทนี้ไปพร้อมกับการแสดงของ ฮง เชา ที่มีดีไม่แพ้กันเลยล่ะ บอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆไปเลยล่ะ สมแล้วที่ทั้งคู่นั้นถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้ค่ะ
สุดท้ายวันนี้ผู้เขียนมีรีวิวหนังภาพยนตร์เรื่องใหม่จากจักรวาลมาร์เวลมาแนะนำผู้อ่านทุกคนนั่นคือเรื่อง Ant-Man and the Wasp : Quantumania แอนท์-แมน ตะลุยมิติควอนตัม